เมนู

และอกุศลธรรม ย่อมไม่รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ ย่อมไม่รู้ธรรมที่เลวและ
ประณีต ย่อมไม่รู้ธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็น
ผู้เขลาหลงงมงายอย่างนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล 5 จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก.
จบทัตวาอวชานาติสูตรที่ 1

ติกัณฑกีวรรควรรณนาที่ 5


อรรคถกถาทัตวาอวชานาติสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในทัตวาอวชานาติสูตรที่ 1 แห่งวรรคที่ 5 ดัง
ต่อไปนี้ :-
บทว่า สํวาเสน ได้แก่ เพราะการอยู่ร่วมกัน. บทว่า อาเทยฺยมุโข
ได้แก่ ตั้งหน้าเชื่อ อธิบายว่า ตั้งหน้ายึดถือ. บทว่า ตเมนํ ทตฺวา
อวชานาติ
ความว่า ย่อมดูแคลนอย่างนี้ว่า ผู้นี้รู้จักแต่จะรับสิ่งที่เราให้เท่านั้น.
บทว่า ตเมนํ สํวาเสน อวชานาติ ความว่า เป็นผู้โกรธในใครๆ เพียง
เล็กน้อยแล้วมักกล่าวคำเป็นต้นว่า เรารู้กรรมที่ท่านทำไว้ เราทำอะไรอยู่
ตลอดกาลนานประมาณเท่านี้ เราพิจารณาทบทวนดูกรรมที่ท่านทำไว้และไม่
ได้ทำไว้มิใช่หรือ ทีนั้นคนนอกนี้คิดว่าโทษไร ๆ ของเราจักมีเป็นแน่ จึงไม่
สามารถจะโต้ตอบอะไร ๆ ได้. บทว่า ตํ ขิปฺปญฺเญว อธิมุจฺจิโต โหติ
ความว่า บุคคลย่อมเชื่อทั้งคุณและโทษนั้นทันทีทันใด. ก็บุคคลนี้ท่านกล่าวว่า
ชื่อว่า อาทิยนมุโข เพราะอรรถว่า เชื่อง่าย. แต่ในบาลีว่า อาธียมุโข