เมนู

คิลานวรรคที่ 3


1. คิลานสูตร


ว่าด้วยคุณธรรมสำหรับภิกษุผู้อาพาธ


[121] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่กูฏาคารศาลา ป่า
มหาวัน ใกล้เมืองเวสาลี ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากที่หลีกเร้นใน
เวลาเย็น เสด็จเข้าไปที่ศาลาภิกษุไข้ ได้ทรงเห็นภิกษุรูปหนึ่งที่ทุรพล เป็นไข้
แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่เขาตกแต่งไว้ ครั้นแล้วได้ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการ ย่อมไม่ละภิกษุบางรูปที่ทุรพล เป็นไข้
เธอนั้นพึงหวังผลนี้ คือ จักทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหา
อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่ ต่อกาลไม่นานเลย ธรรม 5 ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรม
วินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นว่าไม่งามในกาย 1 มีความสำคัญว่าเป็นของปฏิกูลใน
อาหาร 1 มีความสำคัญว่าไม่น่ายินดีในโลกทั้งปวง 1 พิจารณาเห็นว่าไม่
เที่ยงในสังขารทั้งปวง 1 มีมรณสัญญาปรากฏขึ้นด้วยดี ณ ภายใน 1 ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการนี้ย่อมไม่ละภิกษุบางรูปที่ทุรพล เป็นไข้
เธอนั้นพึงหวังผลนี้ คือ จักทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหา
อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทิ้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่ ต่อกาลไม่นานเลย.
จบคิลานสูตรที่ 1

2. สติปัฏฐานสูตร


ว่าด้วยธรรมเป็นเหตุให้บรรลุอริยผลในปัจจุบัน


[122] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม
เจริญทำให้มากซึ่งธรรม 5 ประการ เธอพึงหวังได้ผล 2 อย่าง อย่างใด
อย่างหนึ่ง คืออรหัตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีความยึดถือเหลืออยู่ ก็เป็น
พระอนาคามี ธรรม 5 ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มี
สติอันเข้าไปตั้งไว้ด้วยดีเฉพาะตน เพื่อปัญญาอันให้หยั่งถึงความตั้งขึ้นและดับ
ไปแห่งธรรมทั้งหลาย 1 ย่อมพิจารณาเห็นว่าไม่งามในกาย 1 มีความสำคัญ
ว่าเป็นของปฏิกูลในอาหาร 1 มีความสำคัญว่าไม่น่ายินดีในโลกทั้งปวง 1
พิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือ
ภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่ง ย่อมเจริญทำให้มากซึ่งธรรม 5 ประการนี้แล เธอพึง
หวังได้ผล 2 อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ อรหัตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อ
ยังมีความยึดถือเหลืออยู่ ก็เป็นพระอนาคามี.
จบสติปัฏฐานสูตรที่ 2