เมนู

7. ปฐมหิตสูตร


ว่าด้วยภิกษุผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนเอง


[17] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการ
ย่อมชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ไม่ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น ธรรม
5 ประกาเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ถึง
พร้อมด้วยศีลด้วยตนเอง ไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยศีล เป็นผู้ถึง
พร้อมด้วยสมาธิด้วยตนเอง ไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยสมาธิ เป็นผู้
ถึงพร้อมด้วยปัญญาด้วยตนเอง ไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยปัญญา
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติด้วยตนเอง ไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติ
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะด้วยตนเอง ไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึง
พร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล ย่อม
ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ไม่ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น.
จบปฐมหิตสูตรที่ 7

อรรถกถาปฐมหิตสูตร


ปฐมหิตสูตรที่ 7

ตรัสศีลเป็นต้นเจือกัน. บทว่า วิมุตฺติ ได้แก่
วิมุตติ คืออรหัตผล. ปัจจเวกขณญาณ อันเป็นวิมุตติญาณทัสนะนั้นเป็น
โลกิยะแท้.
จบอรรถกถาปฐมหิตสูตรที่ 7

8. ทุติยหิตสูตร


ว่าด้วยภิกษุผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น


[18] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการ
ย่อมชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น ไม่ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ธรรม
5 ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไม่เป็นผู้ถึง
พร้อมด้วยศีลด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยศีล ไม่เป็นผู้ถึง
พร้อมด้วยสมาธิด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยสมาธิ ไม่
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วย
ปัญญา ไม่เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นในการถึง
พร้อมด้วยวิมุตติ ไม่เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะด้วยตนเอง แต่
ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล ย่อม
ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น ไม่ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน.
จบทุติยทิตสูตรที่ 8
ในทุติยหิตสูตรที่ 8 พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงภิกษุทุศีลเป็นผู้มี
สุตะมาก.