เมนู

8. เถรสูตร


ว่าด้วยธรรมที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์แก่ชนมาก


[88] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม 5 ประการ
ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อสิ่งมิใช่ประโยชน์ เพื่อมิใช่สุข เพื่อความฉิบหายแก่ชนมาก
เพื่อมิใช่เกื้อกูล เพื่อทุกข์ แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ธรรม 5 ประการ
เป็นไฉน คือ ภิกษุผู้เถระเป็นรัตตัญญู บวชนาน 1 เป็นผู้มีชื่อเสียง มียศ
มีชนหมู่มากเป็นบริวาร ปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และบรรพชิต 1 เป็นผู้ได้จีวร
บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร 1 เป็นพหูสูต ทรงไว้
ซึ่งสุตะ สะสมสุตะ เป็นผู้ได้สดับมาก ทรงจำไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอด
ด้วยดีด้วยทิฏฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งาม-
ในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์
บริบูรณ์สิ้นเชิง 1 เป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นวิปริต เธอย่อมยังชนหมู่มาก
ให้ห่างเหินจากสัทธรรม ให้ตั้งอยู่ในอสัทธรรม ชนหมู่มากย่อมยึดถือทิฏฐา-
นุคติของเธอว่า เธอเป็นภิกษุผู้เถระรัตตัญญู บวชนาน ดังนี้บ้าง เธอเป็น
ภิกษุผู้เถระ มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวาร ปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์
และบรรพชิต ดังนี้บ้าง เธอเป็นภิกษุผู้เถระได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ดังนี้บ้าง เธอเป็นภิกษุผู้เถระ ผู้เป็นพหูสูต
ทรงไว้ซึ่งสุตะ สะสมสุตะ ดังนี้บ้าง 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เถระ
ประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อสิ่งที่มิใช่ประโยชน์
เพื่อมิใช่สุข เพื่อความฉิบหายแก่ชนมาก เพื่อมิใช่เกื้อกูล เพื่อทุกข์ แก่เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลาย.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม 5 ประการ ย่อม
เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญ แก่ชนมาก เพื่อ
เกื้อกูล เพื่อสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ธรรม 5 ประการเป็นไฉน
คือ ภิกษุผู้เถระย่อมเป็นพระเถระรัตตัญญู บวชนาน 1 เป็นผู้มีชื่อเสียง มียศ
มีชนหมู่มากเป็นบริวาร ปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และบรรพชิต 1 เป็นผู้ได้จีวร
บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร 1 เป็นพหูสูต ทรงไว้
ซึ่งสุตะ สะสมสุตะ เป็นผู้ได้สดับมาก ทรงจำไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอด
ด้วยดีด้วยทิฏฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามใน
ที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์
บริบูรณ์สิ้นเชิง 1 เป็นสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นไม่วิปริต เธอย่อมยังชนหมู่มาก
ให้ห่างเหินจากอสัทธรรมให้ตั้งอยู่ในสัทธรรม ชนหมู่มากย่อมยึดถือทิฏฐานุคติ
ของเธอว่า เธอเป็นภิกษุผู้เถระ รัตตัญญู บวชนานดังนี้บ้าง เธอเป็นภิกษุ
ผู้เถระ มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวาร ปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และ
บรรพชิต ดังนี้บ้าง เธอเป็นภิกษุผู้เถระ ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ดังนี้บ้าง เธอเป็นภิกษุผู้เถระ ผู้เป็นพหูสูต
ทรงไว้ซึ่งสุตะ สะสมสุตะ ดังนี้บ้าง 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เถระ
ประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ เพื่อ
ความสุข เพื่อความเจริญ แก่ชนมาก เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุข แก่เทวดาและ
มนุษย์ทั้งหลาย.
จบเถระสูตรที่ 8

อรรถกถาเถรสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในเถรสูตรที่ 8 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า เถโร ได้แก่ เป็นผู้ถึงความมั่นคง. บทว่า รตฺตญฺญู ได้แก่
เป็นผู้รู้ราตรีเป็นอันมากที่ล่วงแล้วตั้งแต่วันบวช. บทว่า ญาโต ได้แก่ ที่เขา
รู้จัก คือปรากฏแล้ว. บทว่า ยสสฺสี ได้แก่ เป็นผู้อาศัยยศ. บทว่า มิจฺฉา-
ทิฏฺฐิโก
ได้แก่ เป็นผู้เห็นโดยไม่เห็นตามความเป็นจริง. บทว่า สทฺธมฺมา
วุฏฺฐาเปตฺวา
ได้แก่ ชักชวนให้ออกจากธรรมคือกุศลกรรมบถ 10. บทว่า
อสทฺธมฺเม ปติฏฺฐาเปติ ได้แก่ ให้ตั้งอยู่ในอกุศลกรรมบถ 10.
จบอรรถกถาเถรสูตรที่ 8

9. ปฐมเสขสูตร


ว่าด้วยธรรมและไม่เสื่อมของพระเสขะ


[89] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อ
ความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ธรรม 5 ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้ยินดี
ในการก่อสร้าง 1 ความเป็นผู้ยินดีในการเจรจาปราศรัย 1 ความเป็นผู้ยินดี
ในการนอน 1 ควานเป็นผู้ยินดีในการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ 1 ไม่พิจารณาจิต
ตามที่หลุดพ้นแล้ว 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการนี้แล ย่อมเป็น
ไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ.