เมนู

พังบานประตู พร้อมทั้งกรอบประตู ยกลิ่มสลักทำลายกำแพง รื้อค่ายคู ลดธง
ที่เขายกขึ้นเพื่อความสง่างามแห่งนครลง แล้วเอาไฟเผานครเสีย เข้าไปสู่
เขมนครขึ้นปราสาท มีหมู่ญาติห้อมล้อม บริโภคอาหารอันอเร็จอร่อย ข้อ-
อุปมานี้ฉันใด ข้ออุปมัยก็ฉันนั้น สักกายะเหมือนโจรนคร พระนิพพาน
เหมือนเขมนคร พระโยคาวจรเหมือนนักรบใหญ่ ท่านมีความคิดอย่างนี้ว่า
ตราบใด สักกายะยังเป็นไปอยู่ ตราบนั้น ก็ไม่รอดพ้นจากกรรมกรณ์ 32
โรค 98 และมหาภัย 25 ท่านจึงเป็นเหมือนนักรบใหญ่ สวมเกราะคือศีล
ถือพระขรรค์คือปัญญา เอาพระอรหัตมรรคตัดเสาระเนียดคือตัณหาเหมือน
เอาพระขรรค์ตัดเสาระเนียด ถอดสลักคือสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 เหมือนนักรบ
พังบานประตูนครพร้อมทั้งกรอบประตู ยกลิ่มสลักคืออวิชชา เหมือนนักรบ
ยกลิ่มสลัก ทำลายอภิสังขารคือกรรม รื้อคูคือชาติสงสาร เหมือนนักรบทำลาย
กำแพง รื้อค่ายดู ลดธงคือมานะ เหมือนนักรบลดธงที่เขายกขึ้นให้นครโจร
สง่างามเสีย เผานครโจรคือสักกายะ แล้วเข้าสู่นครคือกิเลสปรินิพพาน เป็น
ที่ดับกิเลส เสวยสุขเกิดแต่ผลสมาบัติ อันมีอมตนิโรธเป็นอารมณ์ ยังเวลาให้
ล่วงไป ๆ เหมือนนักรบเข้าไปในเขมนคร ขึ้นปราสาทชั้นบน บริโภคอาหาร
อันอร่อย ฉะนั้น.
จบอรรถกถาปฐมเจโตวิมุตติสูตรที่ 1

2. ทุติยเจโตวิมุตติสูตร


ว่าด้วยธรรมมีวิมุตติเป็นผล


[72 ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว
ทำให้มากแล้ว ย่อมมีเจโตวิมุตติเป็นผล และมีเจโตวิมุตติเป็นผลานิสงส์