เมนู

โยธาชีววรรควรรณนาที่ 3


อรรถกถาปฐมเจโตวิมุตติสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในปฐมเจโตวิมุตติสูตรที่ 1 แห่งโยธาชีววรรค
ที่ 3 ดังต่อไปนี้ :-
คำว่า ยโต โข ภิกฺขเว เป็นต้นนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเริ่ม
ณ บัดนี้ เพื่อทรงสรรเสริญภิกษุผู้เจริญวิปัสสนา แล้วบรรลุพระอรหัต ตาม
นัยที่ตรัสไว้แล้ว ณ หนหลัง. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยโต โข แปลว่า
กาลใดแล. บทว่า อุกฺขิตฺตปลีโฆ ได้แก่ ยกลิ่มสลักคืออวิชชาออกไปแล้ว.
บทว่า สงฺกิณฺณปริกฺโข ได้แก่ รื้อคูคือสงสารวัฏให้ย่อยยับแล้ว. บทว่า
อพฺพุเฬฺหสิโก ได้แก่ ถอนเสาระเนียดคือตัณหาออกไปแล้ว. บทว่า
นิรคฺคโฬ ได้แก่ ถอดบานประตูคือนิวรณ์ออกเสียแล้ว. บทว่า ปนฺนทฺธโช
ปนฺนภาโร
ได้แก่ ลดธงคือมานะ และภาระคือขันธ์ อภิสังขารและกิเลส
ลงเสียแล้ว. บทว่า วิสํยุตฺโต ได้แก่ หลุดพ้นจากวัฏฏะ. คำที่เหลือพึงทราบ
ตามนัยแห่งพระบาลีนั่นแล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเวลาของพระขีณาสพ ผู้ทำกิเลสให้สิ้นไป
ด้วยมรรคแล้ว ไปยังที่นอนอันดีคือนิโรธ เข้าผลสมาบัติมีพระนิพพานเป็น
อารมณ์อยู่ ด้วยพระดำรัสมีประมาณเท่านี้. เปรียบเหมือนนคร 2 นคร
นครหนึ่งคือโจรนคร นครหนึ่งคือเขมนคร ครั้งนั้น นักรบใหญ่ท่านหนึ่ง
คิดว่า ตราบใด โจรนครยังตั้งอยู่ ตราบนั้น เขมนครก็ย่อมไม่พ้นภัย จำเรา
จักทำโจรนคร ไม่ให้เป็นนคร แล้วจึงสวมเกราะถือพระขรรค์ [ศัสตราวุธ 2
คม] เข้าไปยังโจรนคร เอาพระขรรค์ตัดเสาระเนียด ที่เขาตั้งไว้ใกล้ประตูนคร

พังบานประตู พร้อมทั้งกรอบประตู ยกลิ่มสลักทำลายกำแพง รื้อค่ายคู ลดธง
ที่เขายกขึ้นเพื่อความสง่างามแห่งนครลง แล้วเอาไฟเผานครเสีย เข้าไปสู่
เขมนครขึ้นปราสาท มีหมู่ญาติห้อมล้อม บริโภคอาหารอันอเร็จอร่อย ข้อ-
อุปมานี้ฉันใด ข้ออุปมัยก็ฉันนั้น สักกายะเหมือนโจรนคร พระนิพพาน
เหมือนเขมนคร พระโยคาวจรเหมือนนักรบใหญ่ ท่านมีความคิดอย่างนี้ว่า
ตราบใด สักกายะยังเป็นไปอยู่ ตราบนั้น ก็ไม่รอดพ้นจากกรรมกรณ์ 32
โรค 98 และมหาภัย 25 ท่านจึงเป็นเหมือนนักรบใหญ่ สวมเกราะคือศีล
ถือพระขรรค์คือปัญญา เอาพระอรหัตมรรคตัดเสาระเนียดคือตัณหาเหมือน
เอาพระขรรค์ตัดเสาระเนียด ถอดสลักคือสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 เหมือนนักรบ
พังบานประตูนครพร้อมทั้งกรอบประตู ยกลิ่มสลักคืออวิชชา เหมือนนักรบ
ยกลิ่มสลัก ทำลายอภิสังขารคือกรรม รื้อคูคือชาติสงสาร เหมือนนักรบทำลาย
กำแพง รื้อค่ายดู ลดธงคือมานะ เหมือนนักรบลดธงที่เขายกขึ้นให้นครโจร
สง่างามเสีย เผานครโจรคือสักกายะ แล้วเข้าสู่นครคือกิเลสปรินิพพาน เป็น
ที่ดับกิเลส เสวยสุขเกิดแต่ผลสมาบัติ อันมีอมตนิโรธเป็นอารมณ์ ยังเวลาให้
ล่วงไป ๆ เหมือนนักรบเข้าไปในเขมนคร ขึ้นปราสาทชั้นบน บริโภคอาหาร
อันอร่อย ฉะนั้น.
จบอรรถกถาปฐมเจโตวิมุตติสูตรที่ 1

2. ทุติยเจโตวิมุตติสูตร


ว่าด้วยธรรมมีวิมุตติเป็นผล


[72 ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว
ทำให้มากแล้ว ย่อมมีเจโตวิมุตติเป็นผล และมีเจโตวิมุตติเป็นผลานิสงส์