เมนู

เป็นที่ห้า 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่ง ย่อมเจริญ
ย่อมทำให้มาก ซึ่งธรรม 5 ประการนี้แล ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้น พึงหวัง
ได้ผล 2 ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ อรหัตผล หรือเมื่อมีอุปาทานขันธ์
เหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ในปัจจุบันนี้เทียว.
จบปฐมอิทธิปาทสูตรที่ 7

อรรถกถาปฐมอิทธิปาทสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในปฐมอิทธิปาทสูตรที่ 7 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อุสฺโสฬฺหึ แปลว่า ความเพียรมีประมาณยิ่ง.
จบอรรถกถาปฐมอิทธิปาทสูตรที่ 7

8. ทุติยอิทธิปาทสูตร


ว่าด้วยธรรมที่อำนวยผลให้เป็นอริยบุคคล


[68] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อก่อนแต่ตรัสรู้ เราเป็นพระโพธิสัตว์
ยังไม่ได้ตรัสรู้ ได้เจริญ ทำให้มากซึ่งธรรม 5 ประการ ธรรม 5 ประการ
เป็นไฉน คือ เราได้เจริญอิทธิบาทที่ประกอบด้วยฉันทสมาธิและปธานสังขาร 1
ได้เจริญอิทธิบาทที่ประกอบด้วยวิริยสมาธิและปธานสังขาร 1 ได้เจริญ
อิทธิบาทที่ประกอบด้วยจิตตสมาธิและปธานสังขาร 1 ได้เจริญอิทธิบาทที่
ประกอบด้วยวิมังสาสมาธิและปธานสังขาร 1 ได้เจริญวิริยะอย่างยิ่งเป็นที่ห้า 1

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะได้เจริญ ทำให้มากซึ่งธรรมมีวิริยะอย่างยิ่งเป็นที่ 5
นี้ เราได้โน้มน้อมจิตไปเพื่อทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมที่จะพึงทำ
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งใด ๆ เมื่อเหตุมีอยู่ เราถึงความเป็นผู้ควรเป็นพยาน
ได้ในธรรมนั้น ๆ โดยแน่นอน ถ้าเราหวังก็พึงแสดงฤทธิ์ได้หลายประการ
คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ ฯลฯ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้
เมื่อเหตุมีอยู่ เราถึงความเป็นผู้ควรเป็นพยานในธรรมนั้น ๆ ได้โดยแน่นอน
ฯลฯ ถ้าเราหวัง ก็พึงทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะ
มิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่
เมื่อเหตุมีอยู่ เราถึงความเป็นผู้ควรเป็นพยานในธรรมนั้น ๆ ได้โดยแน่นอน.
จบทุติยอิทธิปาทสูตรที่ 8

อรรถกถาทุติยอิทธิปาทสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในทุติยอิทธิปาทสูตรที่ 8 ดังต่อไปนี้ :-
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอาคมอิทธิบาทของพระองค์ ที่พระองค์แทง-
ตลอดแล้วที่โคนไม้โพธิ แล้วจึงตรัสอภิญญา 6 ของพระองค์นั่นแหละไว้ใน
เบื้องสูงต่อไป ด้วยประการฉะนี้.
จบอรรถกถาทุติยอิทธิปาทสูตรที่ 8