เมนู

ในบทว่า ชานามิ ปสฺสามิ ตเถว เอตํ นี้ ความว่า หมู่สัตว์นี้ติดใจ
กลืนเสร็จสรรพ ก็ติดก็ข้องก็พัวพัน แม้เราก็ได้รู้เห็นสิ่งนั้น สิ่งนั้นก็เหมือน
ที่หมู่สัตว์นี้ยึดถือกันไว้ แต่ตถาคตทั้งหลายไม่ติดใจอย่างนั้น.
จบอรรถกถากาฬกสูตรที่ 4

5. พรหมจริยสูตร


ว่าด้วยเหตุประพฤติพรหมจรรย์


[25] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พรหมจรรย์นี้เราประพฤติมิใช่เพื่อ
หลอกลวงคน มิใช่เพื่อเรียกร้องคน (ให้มานับถือ) มิใช่เพื่ออานิสงส์ ลาภ
สักการะ และความสรรเสริญ มิใช่เพื่ออานิสงส์เป็นเจ้าลัทธิและแก้ลัทธิอย่าง
นั้นอย่างนี้ มิใช่เพื่อให้คนรู้จักตัวว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ที่แท้พรหมจรรย์นี้
เราประพฤติเพื่อสังวร เพื่อปหานะ (ความละ) เพื่อวิราคะ (ความหายกำหนัด
ยินดี) เพื่อนิโรธะ (ความดับทุกข์)
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นได้ทรงแสดง
พรหมจรรย์ อันเป็นการละเว้นสิ่งที่กล่าว
ตามกันมา เป็นทางหยั่งลงสู่พระนิพพาน
เพื่อสังวร เพื่อปหานะ.
ทางนั้น มหาบุรุษทั้งหลายผู้แสวง
หาคุณอันใหญ่ได้ดำเนินแล้ว ชนเหล่าใด
ดำเนินตามทางที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
้ แล้วนั้น ชนเหล่านั้นชื่อว่าทำตามคำสอน
ของพระศาสดา จักกระทำที่สุดทุกข์ได้.

จบพรหมจริยสูตรที่ 5