เมนู

อรรถกถาเสยยสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในเสยยสูตรที่ 4 ดังต่อไปนี้ :-
คนตายแล้ว ท่านเรียกว่า เปตะคนตาย. บทว่า อุตฺตานา เสนฺติ
ได้แก่ คนตายเหล่านั้นโดยมากนอนหงาย. อีกอย่างหนึ่ง สัตว์ที่เกิดในปิตติวิสัย
ชื่อว่า เปรต. เปรตเหล่านั้น เพราะมีเนื้อและเลือดน้อย มีกระดูกขึ้นระเกะระกะ
ไม่สามารถจะนอนตะแคงได้ จึงได้แต่นอนหงายท่าเดียว.
บทว่า อนตฺตมโน โหติ ความว่า ก็สีหมิคราช เพราะเป็นสัตว์
มีอำนาจมาก วางสองเท้าหน้าไว้ที่เท้าหลังแห่งหนึ่ง สอดหางไว้ในระหว่างขา
กำหนดโอกาสที่เท้าหน้า เท้าหลัง และหางวางอยู่ ทอดศีรษะลงบนเท้าหน้า
ทั้งสองแล้วนอนตลอดวัน เมื่อนอนหลับตื่นขึ้นก็ไม่สะดุ้งตื่น แต่ผงกศีรษะขึ้น
สังเกตโอกาสที่เท้าหน้าเป็นต้นวางอยู่ หากเคลื่อนที่ไร ๆ ไป (ไม่อยู่อย่างเดิม)
ก็ไม่พอใจว่า นี้ไม่สมควรแก่ชาติตระกูลของเจ้าไม่สมควรแก่ความเป็นผู้กล้าหาญ
ดังนี้ จึงนอนในที่นั้นต่อไม่ออกไปแสวงหาอาหาร. บทว่า อนตฺตมโน โหติ
ท่านกล่าวหมายเอาข้อนี้. แต่เมื่ออะไร ๆ ไม่เคลื่อนที่ไป สีหมิคราชจึง
ยินดีว่า นี้สมควรแก่ชาติตระกูลของเจ้า และสมควรแก่ความเป็นผู้กล้าหาญ
ของเจ้า แล้วลุกจากที่นั้นบิดกายสลัดสร้อยคอ บันลือสีหนาท 3 ครั้งแล้วจึง
ออกหาอาหาร. บทว่า อตฺตมโน โหติ ท่านกล่าวด้วยข้อนั้น .
จบอรรถกถาเสยยสูตรที่ 4

5. ถูปารหสูตร


ว่าด้วยถูปารหบุคคล 4


[247] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถูปารหะ (บุคคลผู้ควรนำอัฐิธาตุ
บรรจุสถูปไว้บูชา) 4 จำพวกนี้ ถูปารหะ 4 เป็นไฉน คือ
ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัม-
พุทธเจ้า
ปจฺเจกพุทฺโธ พระปัจเจกพุทธะ
ตถาคตสาวโก พระสาวกของพระตถาคต
ราชา จกฺกวตฺตี พระเจ้าจักรพรรดิ
นี้แล ถูปารหะ 4.
จบถูปารหสูตรที่ 5

อรรถกถาถูปารหสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในถูปารหสูตรที่ 5 ดังต่อไปนี้ :-
ในบทว่า ราชา จกฺกวตฺตี นี้ถามว่า เพราะเหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงทรงอนุญาตการก่อทำสถูปแด่พระเจ้าจักรพรรดิซึ่งสวรรคตแล้ว ไม่ทรง
อนุญาตให้ทำแก่ภิกษุผู้เป็นปุถุชนผู้มีศีล. ตอบว่า เพราะความเป็นอัจฉริยะ.
ก็เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตสถูปทั้งหลายแก่ภิกษุผู้เป็นปุถุชน ก็จะ
ไม่พึงมีช่องว่างแก่บ้านและท่าเรือในตัมพปัณณิทวีปเลย ในฐานะอื่นก็อย่างนั้น