เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะที่ 4 เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้
กระทำให้เเจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะ
ทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ นี้สมณะที่ 4.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะ ที่ 1 มีในธรรมวินัยนี้เท่านั้น สมณะที่ 2
ที่ 3 ที่ 4 มีในธรรมวินัยนี้ ลัทธิอื่นว่างจากสมณะทั้ง 4 เธอทั้งหลาย
จงบันลือสีหนาทโดยชอบอย่างนี้เถิด.
จบสมณสูตรที่ 10

อรรถกถาสมณสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในสมณสูตรที่ 10 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อิเธว คือในศาสนานี้เท่านั้น. ก็ความไม่แน่นอนนี้พึงทราบ
แม้ในบทที่เหลือ. จริงอยู่ แม้สมณะที่ 2 เป็นต้น ก็มีอยู่ในศาสนานี้เท่านั้น
ไม่มีในศาสนาอื่น. บทว่า สุญฺญา แปลว่า ว่างเปล่า. บทว่า ปรปฺปวาทา
ได้แก่ ทิฏฐิ 62 อันมาแล้วในพรหมชาลสูตร แม้ทั้งหมดเหล่านี้ คือ
สัสสตวาทะ เอกัจจสัสสติกะ 4 อันตานันติกะ 4 อมราวิกเขปิกะ 4
อธิจจสมุปปันนิกะ 2 สัญญีวาทะ 16 อสัญญีวาทะ 8 เนวสัญญีนาสัญญีวาทะ 8
อุจเฉทวาทะ 7 ทิฏฐธัมมนิพพานวาทะ 5 วาทะของผู้อื่นนอกจากธรรม -
วินัยนี้ ชื่อ ปรัปปวาทะ. วาทะแม้ทั้งหมดเหล่านั้น ว่างเปล่าจากสมณะ
ผู้ตั้งอยู่ในผล 4 เหล่านี้ ทั้งวาทะเหล่านั้นก็ไม่มีอยู่ในธรรมวินัยนี้. อนึ่ง
วาทะเหล่านั้นมิใช่ว่างเปล่าจากสมณะเหล่านี้อย่างเดียวเท่านั้นทั้งยังว่างจากสมณะ
แม้ 12 คือ สมณะผู้ตั้งอยู่ในมรรค บ้างสมณะผู้ปรารภวิปัสสนาเพื่อ

ประโยชน์แก่มรรค 4 บ้าง. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายความนี้ จึงตรัสไว้
ในมหาปรินิพพานสูตรว่า
ดูก่อนสุภัททะ เรามีวัย 29 แสวงหาว่า
อะไรเป็นกุศล จึงออกบวช ตั้งแต่เราบวช
แล้วนับได้ 51 ปี แม้สมณะเป็นไปใน
ประเทศแห่งธรรมเป็นเครื่องรู้ ไม่มีใน
ภายนอกแต่ธรรมวินัยนี้.

แม้สมณะที่ 2 ก็ไม่มี แม้สมณะที่ 3 ก็ไม่มี แม้สมณะที่ 4 ก็ไม่มี
ลัทธิอื่นว่างเปล่าจากสมณะผู้รู้.
จริงอยู่ ผู้ปรารภวิปัสสนาท่านประสงค์เอาในบทว่า ปเทสวตฺติ นี้.
เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำสมณะแม้ 3 จำพวก คือ สมณะ
ผู้ปรารภวิปัสสนาเพื่อโสดาปัตติมรรค 1 สมณะผู้ตั้งอยู่ในมรรค 1 สมณะผู้
ตั้งอยู่ในผล 1 รวมกันจึงตรัสว่า แม้สมณะก็ไม่มี ดังนี้. ทรงกระทำสมณะ
แม้ 3 จำพวก คือ สมณะผู้ปรารภวิปัสสนาเพื่อสกทาคามิมรรค 1 สมณะ
ผู้ตั้งอยู่ในมรรค สมณะผู้ตั้งอยู่ในผล 1 รวมกันจึงตรัสว่า แม้สมณะที่ 2
ก็ไม่มีดังนี้. แม้ในสมณะสองพวกนอกนี้ก็นัยนี้เหมือนกัน.
จบอรรถกถาสมณสูตรที่ 10

11. อานิสังสสูตร


ว่าด้วยอานิสงส์ 4 ประการ


[242] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลอาศัยสัปบุรุษแล้ว พึงหวังได้
อานิสงส์ 4 ประการ อานิสงส์ 4 ประการเป็นไฉน คือ ย่อมเจริญด้วยศีล
ที่เป็นอริยะ 1 ย่อมเจริญด้วยสมาธิที่เป็นอริยะ 1 ย่อมเจริญด้วยปัญญาที่เป็น
อริยะ 1 ย่อมเจริญด้วยวิมุตติที่เป็นอริยะ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลอาศัย
สัปบุรุษแล้ว พึงหวังได้อานิสงส์ 4 ประการนี้.
จบอานิสังสสูตรที่ 11
จบกรรมวรรคที่ 4

อานิสังสสูตรที่ 11 ง่ายทั้งนั้นแล.
จบกรรมวรรควรรณนาที่ 4

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. สังขิตตสูตร 2. วิตถารสูตร 3. โสณกายนสูตร 4. สิกขาบทสูตร
5. อริยมัคคสูตร 6.โพชฌังคสูตร 7. สาวัชชสูตร 8. อัพยาปัชฌสูตร
9. สัปปุริสสูตร 10. สมณสูตร 11.อานิสังสสูตร และอรรถกถา.