เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมคำนี้วิบากดำเป็นไฉน บุคคลบางคนใน
โลกนี้ย่อมปรุงแต่งกายสังขาร อันมีความเบียดเบียน ฯลฯ นี้เราเรียกว่า
กรรมดำมีวิบากดำ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมขาวมีวิบากขาวเป็นไฉน บุคคลบางคน
ในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารอันไม่มีความเบียดเบียน ฯลฯ นี้เราเรียกว่า
กรรมขาวมีวิบากขาว.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมทั้งคำทั้งขาว มีวิบากทั้งคำทั้งขาวเป็นไฉน
บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารอันมีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มี
ความเบียดเบียนบ้าง ฯลฯ นี้เราเรียกว่า กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำ
ทั้งขาว.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมไม่ดำม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อม
เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมเป็นไฉน สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์
วิริยสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์
อุเบกขาสัมโพชฌงค์ นี้เราเรียกว่ากรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว
ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กรรม 4 ประการ นี้แล เราทำให้แจ้งด้วย
ปัญญาอันยิ่งเองแล้วประกาศให้ทราบ.
จบสาวัชชสูตรที่ 7

8. อัพยาปัชฌสูตร


ว่าด้วยกรรมและวิบากของกรรม


[239] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการ
ย่อมเกิดในนรก เหมือนถูกนำมาทิ้งลง ธรรม 4 ประการเป็นไฉน คือ กาย-