เมนู

อสัตบุรุษยิ่งกว่าอัสตบุรุษ เป็นไฉน ? บุคคลบางคนเป็นผู้มีความ
เห็นผิด ฯลฯ มีวิมุตติผิดด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย
นี้เรียกว่า อสัตบุรุษยิ่งกว่าอสัตบุรุษ.
สัตบุรุษ เป็นไฉน ? บุคคลบางคนเป็นผู้มีความเห็นชอบ ฯลฯ
มีวิมุตติชอบ นี้เรียกว่า สัตบุรุษ.
สัตบุรุษยิ่งกว่าสัตบุรุษ เป็นไฉน ? บุคคลบางคนเป็นผู้มีความเห็น
ชอบ มีวิมุตติชอบด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วยนี้เรียกว่า
สัตบุรุษยิ่งกว่าสัตบุรุษ.
จบทสมัคคสูตรที่ 6

7. ปฐมปาปธัมมสูตร


ว่าด้วยคนชั่วยิ่งกว่าคนชั่ว


[207] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงคนชั่ว และคนชั่วยิ่งกว่า
คนชั่ว กับคนดี และคนดียีงกว่าคนดี ท่านทั้งหลายจงพึง ทำในใจให้ดี
เราจักกล่าว
ภิกษุทั้งหลายรับพระพุทธพจน์แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า คนชั่ว
เป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ทำปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุ-
มิจฉาจาร พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มีอภิชฌา มีจิต-
พยาบาท มีความเห็นผิด นี้เรียกว่า คนชั่ว.
คนชั่วยิ่งกว่าคนชั่ว เป็นไฉน ? บุคคลบางคนเป็นผู้ทำปาณาติบาต
ฯลฯ มีความเห็นผิดด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย นี้เรียก
ว่า คนชั่วยิ่งกว่าคนชั่ว

คนดีเป็นไฉน บุคคลบางคนเป็นผู้เว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ มีความ
เห็นชอบ นี้เรียกว่า คนดี.
คนดียิ่งกว่าคนดี เป็นไฉน ? บุคคลบางคนเป็นผู้เว้น จากปาณาติบาต
ฯลฯ มีความเห็นชอบด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย นี้
เรียกว่า คนดียิ่งกว่าคนดี.
จบปฐมปาปธัมมสูตรที่ 7

อรรถกถาปฐมปาปธัมมสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในปฐมปาปธัมมสูตรที่ 7 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปาปํ ได้แก่ คนลามก คือบุคคลเศร้าหมอง. บทว่า กลฺยาณํ
ได้แก่ คนเจริญ คือบุคคลไม่มีโทษ. คำที่เหลือในสูตรนี้ง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาปฐมปาปธัมมสูตรที่ 7

8. ทุติยปาปธัมมสูตร


ว่าด้วยคนชั่วยิ่งกว่าคนชั่ว


[208] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงคนชั่ว และคนชั่วยิ่งกว่า
คนชั่ว กับคนดี และคนดียิ่งกว่าคนดี ท่านทั้งหลายจงพึง ทำในใจให้ดี
เราจักกล่าว ภิกษุทั้งหลายรับพระพุทธพจน์แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
คนชั่ว เป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ความเห็นผิด ดำริผิด