ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัปบุรุษที่ยิ่งกว่าสัปบุรุษเป็นไฉน บุคคล
บางคนในโลกนี้ เป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาตด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้
งดเว้นจากปาณาติบาตอีกด้วย เป็นผู้งดเว้นจากอทินนาทานด้วยตนเอง และ
ชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากอทินนาทานอีกด้วย เป็นผู้งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร
ด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารอีกด้วย เป็นผู้งดเว้น
จากมุสาวาทด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากมุสาวาทอีกด้วย เป็นผู้
งดเว้นจากปิสุณวาจาด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากปิสุณวาจาอีกด้วย
เป็นผู้งดเว้นจากผรุสวาจาด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากผรุสวาจา
อีกด้วย เป็นผู้งดเว้นจากสัมผัปปลาปะด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้งดเว้น
จากสัมผัปปลาปะอีกด้วย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้ เราเรียกว่าสัปบุรุษ
ที่ยิ่งกว่าสัปบุรุษ.
จบสัตตกัมมสูตรที่ 3
4. ทสกัมมสูตร
ว่าด้วยอสัตบุรุษและสัตบุรุษ
[208] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอสัตบุรุษ และอสัตบุรุษ
ยิ่งกว่าอสัตบุรุษ กับสัตบุรุษ และสัตบุรุษยิ่งกว่าสัตบุรุษ ท่านทั้งหลายจงพึง
ทำในใจให้ดี เราจักกล่าว
ภิกษุทั้งหลายรับพระพุทธพจน์แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ภิกษุทั้งหลาย อสัตบุรุษเป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ทำปาณาติบาต
ทำอทินนาทาน ทำกาเมสุมิจฉาจาร พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ