เมนู

อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบแล้ว เพื่อความหมดจดของ
สัตว์ทั้งหลาย เพื่อก้าวล่วงความโศกและการคร่ำครวญ เพื่อความดับสูญแห่ง
ทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน.
จบสามุคิยสูตรที่ 4

อรรถกถาสามุคิยสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในสามุคิยสูตรที่ 4 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า สาปุคิยา ได้แก่ กุลบุตรชาวนิคมสาปุคะ. บทว่า พยคฺฆปชฺช
ความว่า พระอานนท์ เมื่อเรียกโกฬิยบุตรเหล่านั้น จึงกล่าวอย่างนี้ โกฬนคร
มีสองชื่อ คือ นครโกฬะ เพราะเขานำไม้กระเบามาสร้าง 1 ชื่อว่า พยัคฆปัช-
ชะ เพราะเขาสร้างในทางเสือผ่าน 1. บรรพบุรุษของชาวโกฬิยะเหล่านั้น อาศัย
อยู่ในพยัคฆปัชชนครนั้น เพราะฉะนั้น ท่านเรียกว่า พยัคฆปัชชะ เพราะ
อาศัยอยู่ในพยัคฆปัชชนคร. ด้วยเหตุนั้น พระอานนท์เมื่อเรียกชาวโกฬิยะ
เหล่านั้น จึงกล่าวอย่างนี้.
บทว่า ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ ได้แก่องค์เป็นที่ตั้งแห่งความเพียร
เพื่อความบริสุทธิ์ อธิบายว่า องค์คือส่วนแห่งความเพียรที่ควรตั้งไว้. บทว่า
สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ นี้เป็นชื่อของความเพียรอันยังศีลให้บริสุทธิ์. จริงอยู่
ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ นี้เป็นองค์เป็นที่ตั้งแห่งความเพียรเพื่อให้ความบริสุทธิ์
แห่งศีลเต็มบริบูรณ์ เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า สีลปาริสุทธิปธานิยังคะ. แม้ใน
บทที่เหลือก็นัยนี้เหมือนกัน .

บทว่า ตตฺถ ตตฺถ ปญฺญาย อนุคฺคเหสฺสามิ ความว่า เราจัก
ประคับประคองด้วยวิปัสสนาปัญญาไว้ในที่นั้น ๆ. ในบทว่า โย ตตฺถ ฉนฺโท
เป็นต้น พึงทราบความโดยนัยนี้ว่า กัตตุกัมมยตาฉันทะความพอใจ คือ ความ
ใคร่ทำในการประคับประคองนั้นอันใด. ก็ สติ สัมปชัญญะ ท่านกล่าวใน
ที่นี้เพื่อภิกษุเข้าไปตั้งสติไว้แล้วกำหนดด้วยญาณ ยังความเพียรให้ดำเนินไป
บทว่า รชฺชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิราเชติ ความว่า ย่อมทำโดยอาการ
ที่จิตคลายกำหนดในอิฏฐารมณ์อันเป็นปัจจัยแห่งราคะ. บทว่า วิโมจนีเยสุ
ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิโมเจติ
ความว่า ย่อมทำโดยอาการที่จิตเปลื้องไปจากอารมณ์
ซึ่งจิตควรจะเปลื้อง. ในบทว่า วิราเชตฺวา นี้ชื่อว่า คลายกำหนัดในขณะ
แห่งมรรค ชื่อว่า คลายกำหนัดแล้วในขณะแห่งผล. แม้ในบทที่สองก็นัยนี้
เหมือนกัน . บทว่า สมฺมาวิมุตตึ ผุสติ ได้แก่ ถูกต้องอรหัตผลวิมุตติ
ตามเหตุตามนัยด้วยญาณผัสสะ.
จบอรรถกถาสามุคิยสูตรที่ 4

5. วัปปสูตร


ว่าด้วยเจ้าวัปปะเสด็จเข้าไปหาพระมหาโมคคัลลานะ


[195] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในนิโครธาราม
เมืองกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ ครั้งนั้นแล เจ้าศากยะพระนามว่าวัปปะ เป็น
สาวกของนิครนถ์ เสด็จเข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ ทรงอภิวาท
แล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วท่านพระมหาโมคคัลลานะ
ได้กล่าวว่า ดูก่อนวัปปะ บุคคลในโลกนี้ พึงเป็นผู้สำรวมด้วยกาย สำรวม