เมนู

เพราะเหตุนั้น ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจัก
ไม่เป็นผู้มักมาก มีความร้อนใจ ไม่สันโดษด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
คิลานปัจจัยตามมีตามได้ จักไม่ตั้งความปรารถนาลามกเพื่อจะได้ความยกย่อง
เพื่อจะได้ลาภสักการะและความสรรเสริญ จักไม่วิ่งเต้นขวนขวายพยายามเพื่อ
ให้ได้ความยกย่อง เพื่อให้ได้ลาภสักการะและความสรรเสริญ จักเป็นผู้อดทน
ต่อ หนาว ร้อน หิว ระหาย ต่อสัมผัสแห่งเหลือบ ยุง ลม แดด และ
สัตว์เสือกคลานทั้งหลาย ต่อถ้อยคำอันหยาบคายร้ายแรงต่าง ๆ เป็นผู้อดกลั้น
ต่อเวทนาที่เกิดในกาย อันเป็นทุกข์กล้าแข็งเผ็ดร้อนขมขึ้น ไม่เจริญใจพอจะ
ปล้นชีวิตเสียได้ ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.
จบโรคสูตรที่ 7

อรรถกถาโรคสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในโรคสูตรที่ 7 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า วิฆาตวา ได้แก่ ประกอบด้วยความร้อนใจคือทุกข์ มีความ
มักมากเป็นปัจจัย. บทว่า อสนฺตุฏโฐ ได้แก่ เป็นผู้ไม่สันโดษ ด้วยสันโดษ
3 ในปัจจัย 4. บทว่า อนวญฺญปฏิลาภาย ได้แก่ เพื่อได้ความยกย่อง
จากผู้อื่น. บทว่า ลาภสกฺการสิโลกปฏิลาภาย ได้แก่ เพื่อได้ลาภสักการะ
อันได้แก่ปัจจัย 4 ที่เขาจัดไว้เป็นอย่างดี และความสรรเสริญ อันได้แก่การ
กล่าวยกย่อง. บทว่า สงฺขาย กุลานิ อุปสงฺกมติ ได้แก่ เข้าไปสู่ตระกูล
เพื่อรู้ว่า ชนเหล่านี้รู้จักเราไหม. แม้ในบทที่เหลือก็มีนัยนี้เหมือนกัน.
จบอรรถกถาโรคสูตรที่ 7

8. ปริหานิสูตร


ว่าด้วยพิจารณาเห็นธรรม 4


[158] พระสารีบุตรเรียกภิกษุทั้งหลายมา ฯลฯ แสดงธรรมว่า
อาวุโสทั้งหลาย ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นภิกษุก็ตาม ภิกษุณีก็ตาม พิจารณาเห็น
ธรรม 4 ประการมีอยู่ในตน ผู้นั้นพึงสันนิษฐานได้ว่าตนเสื่อมจากกุศลธรรม
ทั้งหลาย เพราะการที่มีธรรม 4 ประการอยู่ในคนนั่น พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสว่าเป็นความเสื่อม ธรรม 4 ประการเป็นไฉน คือ ความมีราคะ
หนาแน่น 1 ความมีโทสะหนาแน่น 1 ความมีโมหะหนาแน่น 1
ไม่มีปัญญาจักษุก้าวไปในฐานะและอฐานะอันลึก 1
ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็น
ภิกษุก็ตาม ภิกษุณีก็ตาม พิจารณาเห็นธรรม 4 ประการนี้มีอยู่ในตน พึง
สันนิษฐานได้ว่าตนเสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย เพราะการที่มีธรรม 4 ประการ
นี้อยู่ในตนนั่น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าเป็นความเสื่อม
อาวุโสทั้งหลาย ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นภิกษุก็ตาม ภิกษุณีก็ตาม พิจารณา
เห็นธรรม 4 ประการนี้มีอยู่ในตน พึงสันนิษฐานได้ว่าคนไม่เสื่อมจากกุศล-
ธรรมทั้งหลาย เพราะการที่มีธรรม 4 ประการนั้นอยู่ในตนนั่น พระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสว่าเป็นความไม่เสื่อม ธรรม 4 ประการเป็นไฉน คือ ความ
มีราคะเบาบาง 1 ความมีโทสะเบาบาง 1 ความมีโมหะเบาบาง 1
มีปัญญาจักษุก้าวไปในฐานะและอฐานะอันลึก 1
ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นภิกษุ
ก็ตาม ภิกษุณีก็ตาม พิจารณาเห็นธรรม 4 ประการที่มีอยู่ในตน พึงสัน-
นิษฐานได้ว่าตนไม่เสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย เพราะการที่มีธรรม 4 ประการ
นี้อยู่ในตนนั่น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าเป็นความไม่เสื่อม.
จบปริหานิสูตรที่ 8