เมนู

บุคคลให้โภชนาหารอันปรุงแต่ง
แล้วอันสะอาด ประณีต มีรส (แก่ปฏิ-
คาหก) ทักษิณาทานนั้นที่บุคคลให้ในท่าน
ผู้ดำเนินตรง ผู้ประกอบด้วยจรณะ ผู้ถึง
ความเป็นใหญ่ พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรง-
สรรเสริญว่าเป็นทักษิณาที่รวบรวมบุญด้วย
บุญ มีผลมาก.
บุคคลเหล่าใด ระลึกถึงทักษิณาทาน
เช่นนั้น เกิดความยินดี ขจัดเสียซึ่งมลทิน
คือควานตระหนี่ พร้อมทั้งมูลราก ในโลก
ย่อมเป็นผู้ไม่ต้องตำหนิ ย่อมเข้าถึงฐานะ
อันเป็นสวรรค์.

จบสุปปวาสสูตรที่ 7

อรรถกถาสุปปวาสสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในสุปปวาสสูตรที่ 7 ดังต่อไปนี้ :-
คำว่า ปัชชเนละ เป็นชื่อนิคมของใคร. บทว่า โกลิยานํ ได้แก่
ของโกลราชตระกูล. บทว่า อายุํ โข ปน ทตฺวา ได้แก่ ครั้นให้อายุ-
ทานแล้ว. บทว่า อายุสฺส ภาคินี โหติ ได้แก่ เป็นหญิงได้ลาภคืออายุ
หรือเป็นผู้เกิดมีอายุ อธิบายว่า เป็นผู้ได้อายุ. แม้ในบทที่เหลือ ก็นัยนี้
เหมือนกัน .

บทว่า รสสา อุเปตํ ได้แก่ โภชนาหารประกอบด้วยรส คือ
ถึงพร้อมด้วยรส. บทว่า อุชุคเตสุ ความว่า ในพระขีณาสพผู้ดำเนินตรง
เพราะเว้นคดกายเป็นต้นแล้ว. บทว่า จรณูปปนฺเนสุ ความว่า ผู้ประกอบด้วย
จรณธรรม 15. บทว่า มหคฺคเตสุ คือผู้ถึงภูมิธรรมสูง. บทนั้นเป็นชื่อ
ของพระขีณาสพ. บทว่า ปุญฺเญน ปุญฺญํ สํสนฺทมานา แปลว่า การสืบต่อ
บุญด้วยบุญ. บทว่า มหปฺผลา โลกวิทูน วณฺณิตา ความว่า ทักษิณา
กล่าวคือทานเห็นปานนี้ พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้ทรงรู้แจ้งโลก ตรัสยกย่องแล้ว
อธิบายว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงสรรเสริญแล้ว เพราะทรงทำโลก 3 อย่าง
ให้แจ้งแล้ว. บทว่า ยญฺญมนุสฺสรนฺตา ได้แก่ ระลึกถึงยัญคือทาน. บทว่า
เวทชาตา แปลว่า เกิดความยินดีแล้ว.
จบอรรถกถาสุปปวาสสูตรที่ 7

8. สุทัตตสูตร


ว่าด้วยฐานะ 4 ประการ


[58] ครั้งนั้น อนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควรส่วนหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระธรรม
เทศนานี้ว่า คฤหบดี อริยสาวกเมื่อให้โภชนาหารเป็นทาน ชื่อว่าให้สถาน 4
ประการ แก่ปฏิคาหกทั้งหลาย ให้สถาน 4 ประการคืออะไรบ้าง คือ ให้อายุ
ให้วรรณะ ให้สุขะ ให้พละ
ครั้นให้อายุแล้วย่อมเป็นผู้มีส่วน (ได้รับ )
อายุอันเป็นของทิพย์บ้าง ของมนุษย์บ้าง ครั้นให้วรรณะ สุขะ และพละแล้ว