เมนู

6. ทุติยสมชีวิสูตร


ว่าด้วยภริยา-สามี-หวังพบกัน


[56] สูตรนี้ตรัสแก่ภิกษุ ความเหมือนสูตรก่อน ตอนที่ตรัสสอนว่า
ถ้าภริยาสามีหวังที่จะได้พบกัน ฯลฯ นิคมคาถาก็เหมือนกัน
จบทุติยสมชีวิสูตรที่ 6
ทุติยสมชีวิสูตรที่ 6 ทรงแสดงแก่พวกภิกษุอย่างเดียว. บทที่เหลือ
ในบททั้งปวงก็เป็นเช่นนั้น.

7. สุปปวาสสูตร


ว่าด้วยนางสุปปวาสาอังคาสพระผู้มีพระภาคเจ้า


[57] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่นิคมของชาวโกลิยะ
ชื่อปัชชเนลนิคม ในโกลิยชนบท ครั้งนั้น เวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงครองสบงแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จพระพุทธดำเนินไปนิเวศน์
ของนางสุปปวาสา ธิดาของเจ้าโกลิยะ ประทับ ณ อาสนะที่เขาจัดถวาย
นางสุปปวาสาอังคาสพระผู้มีพระภาคเจ้า บริบูรณ์พอเพียงด้วยขาทนียโภชนี-
ยาหารด้วยตนเอง ครั้นพระองค์เสวยเสร็จ นำพระหัตถ์จากบาตรแล้ว นั่ง
เฝ้าอยู่ในที่สมควรส่วนหนึ่ง
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ดูก่อนสุปปวาสา อริยสาวิกา
เมื่อให้โภชนาหารเป็นทาน ชื่อว่าให้สถาน 9 แก่ปฏิคาหกทั้งหลาย ให้สถาน
4 คืออะไรบ้าง คือ ให้อายุ ให้วรรณะ ให้สุขะ ให้พละ ครั้นให้อายุ
แล้วย่อมเป็นผู้มีส่วน (ได้รับ ) อายุอันเป็นของทิพย์บ้าง ของมนุษย์บ้าง
ครั้นให้วรรณะ...สุขะ...พละแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วน (ได้รับ) วรรณะ...
สุขะ...พละ อันเป็นของทิพย์บ้าง ของมนุษย์บ้าง ดูก่อนสุปปวาสา อริย-
สาวิกาเมื่อให้โภชนาหารเป็นทาน ชื่อว่าให้สถาน 4 นี้ แก่ปฏิคาหกทั้งหลาย.

บุคคลให้โภชนาหารอันปรุงแต่ง
แล้วอันสะอาด ประณีต มีรส (แก่ปฏิ-
คาหก) ทักษิณาทานนั้นที่บุคคลให้ในท่าน
ผู้ดำเนินตรง ผู้ประกอบด้วยจรณะ ผู้ถึง
ความเป็นใหญ่ พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรง-
สรรเสริญว่าเป็นทักษิณาที่รวบรวมบุญด้วย
บุญ มีผลมาก.
บุคคลเหล่าใด ระลึกถึงทักษิณาทาน
เช่นนั้น เกิดความยินดี ขจัดเสียซึ่งมลทิน
คือควานตระหนี่ พร้อมทั้งมูลราก ในโลก
ย่อมเป็นผู้ไม่ต้องตำหนิ ย่อมเข้าถึงฐานะ
อันเป็นสวรรค์.

จบสุปปวาสสูตรที่ 7

อรรถกถาสุปปวาสสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในสุปปวาสสูตรที่ 7 ดังต่อไปนี้ :-
คำว่า ปัชชเนละ เป็นชื่อนิคมของใคร. บทว่า โกลิยานํ ได้แก่
ของโกลราชตระกูล. บทว่า อายุํ โข ปน ทตฺวา ได้แก่ ครั้นให้อายุ-
ทานแล้ว. บทว่า อายุสฺส ภาคินี โหติ ได้แก่ เป็นหญิงได้ลาภคืออายุ
หรือเป็นผู้เกิดมีอายุ อธิบายว่า เป็นผู้ได้อายุ. แม้ในบทที่เหลือ ก็นัยนี้
เหมือนกัน .