เมนู

ว่ารู้ ไม่เห็น ก็กล่าวว่าไม่เห็น เห็น ก็กล่าวว่าเห็น ไม่เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งรู้
เพราะเห็นแก่ตนบ้างฯลฯ ดังนี้ นี่ ภิกษุทั้งหลาย เราเรียกว่า บุคคลปุปผภาณี
ก็บุคคลมธุภาณีเป็นอย่างไร บุคคลลางตนในโลกนี้ เป็นผู้ละวาจา
หยาบ เว้นจากวาจาหยาบแล้ว วาจาใดไม่มีโทษ สบายหู น่าดูดดื่มจับใจ
เป็นคำชาวเมือง เป็นที่ใคร่ ... ที่พอใจแห่งชนมาก เป็นผู้กล่าววาจาอย่างนั้น
นี่ ภิกษุทั้งหลาย เราเรียกว่า บุคคลมธุภาณี
นี้แล ภิกษุทั้งหลาย บุคคล 3 มีอยู่ในโลก.
จบคูถภาณีสูตรที่ 8

อรรถกถาคูถภาณีสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในคูถภาณีสูตรที่ 8 ดังต่อไปนี้ :-
บุคคลใด กล่าวถ้อยคำส่งกลิ่นเหม็นเหมือนคูถ บุคคลนั้น ชื่อว่า
คูถภาณี. บุคคลใด กล่าวถ้อยคำส่งกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้ บุคคลนั้น
ชื่อว่า ปุปผภาณี. บุคคลใด กล่าวถ้อยคำอ่อนหวานเหมือนน้ำผึ้ง บุคคลนั้น
ชื่อว่า มธุภาณี.
บทว่า สภาคโต คืออยู่ในสภา. บทว่า ปริสคโต คืออยู่ในหมู่
ชาวบ้าน. บทว่า ญาติมชฺฌคโต คืออยู่ในท่ามกลางทายาททั้งหลาย. บทว่า
ปูคมชฺฌคโต คืออยู่ในท่ามกลางเสนาทั้งหลาย. บทว่า ราชกุลมชฺฌคโต
คืออยู่ในท่ามกลางราชตระกูล คือ ในท้องพระโรง สำหรับวินิจฉัยของหลวง.