เมนู

คือธรรมที่เป็นอุปการะแก่ศีล ชื่อว่า อนุเคราะห์สีลขันธ์ ด้วยปัญญา
ในที่นั้น ๆ ในบทว่า ตตฺถ ตตฺถ ปญฺญาย อนุคฺคเหสฺสามิ นี้. แม้
ในสมาธิขันธ์ และปัญญาขันธ์ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน.
บทว่า นิหียติ ความว่า บุคคลเมื่อคบหาคนที่เลวกว่าตนย่อมเสื่อม
คือย่อมเสียหาย ติดต่อกันเรื่อยไป เหมือนน้ำที่เทไป ในหม้อกรองน้ำด่าง.
บทว่า ตุลฺยเสวี ได้แก่คบคนที่เสมอกับตน. บทว่า เสฏฺฐมุปนมํ ได้แก่
น้อมเข้าไปหาผู้ประเสริฐ. บทว่า อุเทติ ขิปฺปํ ความว่า ย่อมเจริญ
เร็วทีเดียว. บทว่า ตสฺมา อตฺตโน อุตฺตรึ ภเชถ ความว่า เพราะเหตุ
ที่บุคคลผู้น้อมตนเข้าไปหาบุคคลผู้ประเสริฐ ย่อมเจริญเร็ว ฉะนั้น จึงควรคบ
คนที่ยิ่งกว่า คือคนที่สูงกว่า ได้แก่คนที่ประเสริฐกว่าตน.
จบอรรถกถาเสวิตัพพสูตรที่ 6

7. ชิคุจฉิตัพพสูตร



ว่าด้วยบุคคลที่ควรคบและไม่ควรคบ


[466] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล 3 นี้ มีอยู่ในโลก บุคคล 3
คือใคร คือ บุคคลที่ควรเกลียด ไม่ควรเสพ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ก็มี
บุคคลที่ควรเฉย ๆ เสีย ไม่ควรเสพ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ก็มี บุคคล
ที่ควรเสพ ควรคบ ควรเข้าใกล้ก็มี
บุคคลที่ควรเกลียด ไม่ควรเสพ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้เป็น
อย่างไร ? บุคคลลางคนในโลกนี้เป็นผู้ทุศีลมีธรรมอันลามก (มีการกระทำ)
ไม่สะอาด มีความประพฤติน่ารังเกียจ มีการงานอันปกปิดไม่เป็นสมณะ แต่

ปฏิญญาว่าเป็นสมณะ ไม่เป็นพรหมจารี แต่ปฏิญญาว่าเป็นพรหมจารี เป็น
คนเน่าใน เปียกชื้น รกเรื้อ (ด้วยกิเลสโทษ) บุคคลเช่นนี้ควรเกลียด ไม่
ควรเสพไม่ควรคบไม่ควรเข้าใกล้ นั่นเพราะเหตุอะไร ? เพราะถึงแม้ผู้คบจะ
ไม่เอาเยี่ยงของบุคคลชนิดนั้น แต่ก็จะมีกิตติศัพท์อันเลวฟุ้งไปว่า เป็นคนมี
มิตรชั่ว มีสหายเลว มีเพื่อนทราม งูที่จมคูถย่อมไม่กัดก็จริงอยู่ ถึงกระนั้น
มันก็ทำผู้จับให้เปื้อน ฉันใดก็ดี ถึงแม้ผู้คบจะไม่เอาเยี่ยงของบุคคลชนิดนั้น
แต่ก็จะมีกิตติศัพท์อันเลวฟุ้งไปว่า เป็นคนมีมิตรชั่ว มีสหายเลว มีเพื่อนทราม
ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุนั้น บุคคลเช่นนั้น จึงควรเกลียด ไม่ควรเสพ
ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้
บุคคลที่ควรเฉย ๆ เสีย ไม่ควรเสพ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้เป็น
อย่างไร บุคคลลางคนในโลกนี้ เป็นคนขี้โกรธ มีความแค้นมาก ถูกเขาว่า
หน่อย ก็ขัดเคืองขึ้งเคียดเง้างอด. ทำความกำเริบความร้ายและความเดือดดาล
ให้ปรากฏ เหมือนแผลร้ายถูกไม้หรือกระเบื้องเข้ายิ่งหนองไหล ... เหมือนฟืน
ไม้ติณฑุกะถูกครูดด้วยไม้หรือกระเบื้อง ยิ่งส่งเสียงจิจิฏะๆ ... เหมือนหลุมคูถ
ถูกรันด้วยไม้หรือกระเบื้องยิ่งเหม็นฉันใด บุคคลลางคนในโลกนี้เป็นคน
ขี้โกรธ มีความแค้นมาก ถูกเขาว่าหน่อย ก็ขัดเคืองขึ้งเคียดเง้างอด ทำความ
กำเริบความร้าย และความเดือดดาลให้ปรากฏฉันนั้น บุคคลเช่นนี้ ภิกษุ
ทั้งหลาย ควรเฉย ๆ เสีย ไม่ควรเสพ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกส้ นั่นเพราะ
เหตุอะไร เพราะ (เกรงว่า) เขาจะด่าเราบ้าง จะตะเพิดเราบ้าง จะทำเราให้
เสื่อมเสียบ้าง เพราะเหตุนั้น บุคคลชนิดนี้ จึงควรเฉย ๆ เสีย ฯลฯ
ก็บุคคลที่ควรเสพ ควรคบ ควรเข้าใกล้เป็นอย่างไร ? บุคคลลางคน
ในโลกนี้เป็นผู้มีศีล มีธรรมอันงาม บุคคลอย่างนี้ ควรเสพ ควรคบ ควร
เข้าใกล้ นั่นเพราะเหตุอะไร เพราะถึงแม้ผู้คบจะไม่เอาเยี่ยงบุคคลเช่นนั้น

แต่ก็จะมีกิตติศัพท์อันงามขจรไปว่า เป็นคนมีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี
เพราะเหตุนั้น บุคคลอย่างนี้จึงควรเสพ ควรคบ ควรเข้าใกล้
นี้แล ภิกษุทั้งหลาย บุคคล 3 มีอยู่ในโลก.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสนิคมคาถาว่า
คนผู้คบคนทราม ย่อมเสื่อม ส่วน
คนผู้คบคนเสมอกัน ไม่เลื่อมในกาลไหนๆ
ผู้คบคนที่ประเสริฐกว่า ย่อมเจริญเร็ว
เพราะฉะนั้น จึงควรคบคนที่ยิ่งกว่าตน.

จบชิคุจฉิตัพพสูตรที่ 7

อรรถกถาชิคุจฉิตัพพสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในชิคุจฉิตัพพสูตรที่ 7 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ชิคุจฺฉิตพฺโพ ความว่า บุคคลที่ใคร ๆ พึงรังเกียจเหมือน
คูถฉะนั้น. บทว่า อถโข นํ เท่ากับ อถโข อสฺส. บทว่า กิตฺติสทฺโท
คือ เสียงที่กล่าวขานกัน. ในบทว่า เอวเมว โข นี้ พึงทราบข้อเปรียบเทียบ
ดังต่อไปนี้
ความเป็นผู้ทุศีล พึงเห็นเหมือนหลุมคูถ. บุคคลผู้ทุศีล พึงเห็น
เหมือนงูเรือน ตัวตกลงไปในหลุมคูถฉะนั้น ภาวะที่บุคคลพึงจะคบหาบุคคล
ผู้ทุศีล (แต่) ไม่ทำตามบุคคลผู้ทุศีลนั้น พึงเห็นเหมือนภาวะที่บุคคลถูกงูที่
เขายกขึ้นจากหลุมคูถไต่ขึ้นสู่ร่างกาย แต่ไม่กัดฉะนั้น เวลาที่บุคคลคบหาผู้
ทุศีล จนชื่อเสียงที่ไม่ดีระบือไปทั่ว พึงทราบเหมือนเวลาที่เขาถูกงูตัวเปื้อน
คูถแล้ว กัดเอาฉะนั้น. บทว่า ติณฑุกาลาตํ ได้แก่ ดุ้นฟืนไม้มะพลับ.
บทว่า ภิยฺโยโส มตฺตาย จิจิฏายติ ความว่า ก็ดุ้นฟืนไม้มะพลับนั้น เมื่อ