เมนู

พรหมจารีทั้งหลาย คนทำกรรมอันเป็น
ประทักษิณแล้ว ย่อมได้ประโยชน์อันเป็น
ประทักษิณ ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้มี
ประโยชน์อันได้แล้ว ถึงซึ่งความสุข งอก
งามในพระพุทธศาสนา เป็นผู้หาโรคมิได้
สำราญกายใจ พร้อมด้วยญาติทั้งปวง
เทอญ.

จบสุปุพพัณหสูตรที่ 10
จบมงคลวรรคที่ 5


อรรถกถาสุปุพพัณหสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในสุปุพพัณหสูตรที่ 10 ดังต่อไปนี้ :-
ในคำเป็นต้นว่า สุนกฺขตฺตํ วันที่คนทั้งหลายบำเพ็ญสุจริตธรรมทั้ง
3 ให้บริบูรณ์ ชื่อว่าเป็นวันที่ได้การประกอบฤกษ์ เพราะฉะนั้น พระผู้มี
พระภาคเจ้าจึงตรัสว่า วันนั้น มีฤกษ์ดีทุกเมื่อ. วันนั้นนั่นแหละ ชื่อว่า เป็น
วันทำมงคลแล้ว เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า วันนั้นมีมงคลดี
ทุกเมื่อ. แม้วันที่มีความสว่างไสวทั้งวัน จึงชื่อว่า สุปฺปภาตเมว มีความ
สว่างไสวเป็นประจำ. แม้การลุกขึ้นจากการนอนของวันนั้น ก็ชื่อว่า สุหุฏฺฐิตํ
ลุกขึ้นด้วยดี. แม้ขณะของวันนั้น ก็ชื่อว่า สุกฺขโณ ขณะดี. แม้ยามของ
วันนั้น ก็ชื่อว่า สุมุหุตฺโต ยามดี.

ก็ในบทว่า สุมุหุตฺโต นี้ พึงทราบการแบ่งเวลาดังนี้ เวลาประมาณ
10 นิ้ว ชื่อว่า ขณะ เวลา 10 นิ้ว โดยขณะนั้น ชื่อว่า ลยะ. เวลา 10
ลยะ โดยลยะนั้น ชื่อว่า ขณลยะ. เวลา 10 เท่า โดยขณลยะนั้น ชื่อว่า
มุหุตฺตะ. เวลา 10 เท่า โดยมุหุตตะนั้น ชื่อว่า ขณมุหุตฺตะ.
บทว่า สุยิฏฺฐํ พฺรหฺมจาริสุ ความว่า ทานที่เขาให้ในผู้ประพฤติ
ธรรมอันประเสริฐ ในวันที่บำเพ็ญสุจริต 3 ให้บริบูรณ์แล้ว ชื่อว่า สุยิฏฺฐํ
(มีการบูชาดีแล้ว). บทว่า ปทกฺขิณํ กายกมฺมํ ความว่า กายกรรมที่เขา
ทำแล้วในวันนั้น ชื่อว่าเป็นกายกรรม ประกอบด้วยความเจริญ. แม้ในบท
ที่เหลือ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน. บทว่า ปทกฺขิณานิ กตฺวาน ความว่า ครั้น
การทำกายกรรมเป็นต้น ที่ประกอบด้วยความเจริญแล้ว. บทว่า ลภนฺตตฺเถ
ปทกฺขิเณ
ความว่า จะได้ประโยชน์ที่เป็นประทักษิณ คือประโยชน์ที่ประกอบ
ด้วยความเจริญนั่นเอง. ข้อความที่เหลือในพระสูตรนี้ ง่ายทั้งนั้น ฉะนี้เเล.
จบอรรถกถาสุปุพพัณหสูตรที่ 10
จบมงคลวรรควรรณนาที่ 5
จบตติยปัณณาสก์


รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. อกุศลสูตร 2. สาวัชชสูตร 3. วิสมสูตร 4. อสุจิสูตร
5. ปฐมขตสูตร 6. ทุติยขตสูตร 7. ตติยขสูตร 8. จตุตถขตสูตร
9. วันทนาสูตร 10. สุปุพพัณหสูตร และอรรถกถา.