เมนู

อรรถกถาปฐมโมรนิวาปสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในปฐมโมรนิวาปสูตรที่ 11 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อจฺจนฺตนิฏฺโฐ ความว่า สำเร็จโดยก้าวล่วงที่สุด (แห่งทุกข์)
อธิบายว่า สำเร็จอกุปปธรรม. คำที่เหลือ เช่นเดียวกัน (กับคำที่กล่าวแล้ว)
ทั้งนั้น.
จบอรรถกถาปฐมโมรนิวาปสูตรที่ 11

12. ทุติยโมรนิวาปสูตร



ว่าด้วยปาฏิหาริย์ 3



[584] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 3 ประการ
เป็นผู้สำเร็จถึงที่สุด ฯลฯ เป็นผู้ประเสริฐแห่งเทวดามนุษย์ทั้งหลาย ธรรม 3
ประการคืออะไรบ้าง คือ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ อนุสาสนี-
ปาฏิหาริย์
ภิกษุประกอบด้วยธรรม 3 ประการนี้แล เป็นผู้สำเร็จถึงที่สุด ฯลฯ
เป็นผู้ประเสริฐแห่งเทวดามนุษย์ทั้งหลาย.
จบทุติยโมรนิวาปสูตรที่ 12

อรรถกถาทุติยโมรนิวาปสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในทุติยโมรนิวาปสูตรที่ 12 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อิทฺธิปาฏิหาริเยน ได้แก่ ด้วยการแสดงฤทธิ์ เป็นอัศจรรย์.
บทว่า อาเทสนาปาฏิหาริเยน ได้แก่ ด้วยการกล่าวชี้ อ้างถึง (ดักใจ)
เป็นอัศจรรย์.
จบอรรถกถาทุติยโมรนิวาปสูตรที่ 12

13. ตติยโมรนิวาปสูตร



ว่าด้วยผู้ประเสริฐเพราะมีธรรม 3 อย่าง



[585] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 3 ประการ
เป็นผู้สำเร็จถึงที่สุด ฯลฯ เป็นผู้ประเสริฐแห่งเทวดามนุษย์ทั้งหลาย ธรรม 3
ประการคืออะไรบ้าง คือ สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) สัมมาญาณ (ความ
รู้ชอบ) สัมมาวิมุตติ (ความพ้นชอบ) ภิกษุประกอบด้วยธรรม 3 ประการ
นี้แล เป็นผู้สำเร็จถึงที่สุด ฯลฯ เป็นผู้ประเสริฐแห่งเทวดามนุษย์ทั้งหลาย
จบตติยโมรนิวาปที่ 13
จบโยธาชีวรรคที่ 4

อรรถกถาตติยโมรนิวาปสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในตติยโมรนิวาปสูตรที่ 13 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า สมฺมาทิฏฺฐิยา ได้แก่ด้วยสัมมาทิฏฐิ ที่เกิดแต่วิปัสสนา
เพื่อประโยชน์แก่ผลสมาบัติ. บทว่า สมฺมาญาเณน ได้แก่ด้วยผลญาณ
บทว่า สมฺมาวิมุตฺติยา ได้แก่ธรรมคือผลสมาบัติที่เหลือ. ในสูตรแม้ทั้ง 3
เหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมายถึง พระขีณาสพอย่างเดียว ฉะนี้แล.
จบอรรถกถาตติยโมรนิวาปสูตรที่ 13
จบโยธาชีวรรควรรณนาที่ 4


รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ



1. โยธสูตร 2. ปริสาสูตร 3. มิตตสูตร 4. อุปปาทสูตร
5. เกสกัมพลสูตร 6. สัมปทาสูตร 7. วุฑฒิสูตร 8. ปฐมอัสสสูตร
9. ทุติยอัสสสูตร 10. ตติยอัสสสูตร 11. ปฐมโมรนิวาปสูตร 12. ทุติย-
โมรนิวาปสูตร 13. ตติยโมรนิวาปสูตร และอรรถกถา.