เมนู

วจีโมไนยะเป็นอย่างไร ? ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้เป็นผู้เว้นจาก
มุสาวาท เว้นจากปิสุณาวาจา เว้นจากผรุสวาจา เว้นจากสัมผัปปลาป นี้เรียกว่า
วจีโมไนยะ
มโนโมไนยะเป็นอย่างไร ? ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้กระทำให้แจ้ง
ซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติอันหาอาสวะมิได้ เพราะสิ้นอาสวะทั้งหลาย ด้วย
ปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองสำเร็จอยู่ในปัจจุบันนี่ นี้เรียกว่ามโนโมไนยะ
นี้แล ภิกษุทั้งหลาย โมไนยะ 3.
นิคมคาถา
บุคคลผู้เป็นปราชญ์ทางกาย เป็น
ปราชญ์ทางวาจา เป็นปราชญ์ทางใจ หา
อาสวะมิได้ เป็นปราชญ์พร้อมด้วยคุณ
ธรรมของปราชญ์ บัณฑิตกล่าวบุคคลนั้น
ว่า ผู้ละบาปหมด.

จบโมเนยยสูตรที่ 10
จบอาปายิกวรรคที่ 1

อรรถกถาโมเนยยสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในโมเนยยสูตรที่ 10 ดังต่อไปนี้ :-
ความเป็นมุนี ชื่อว่า โมเนยยะ. ความเป็นมุนี คือความเป็นสาธุชน
ได้แก่ความเป็นบัณฑิต ในกายทวาร ชื่อว่า กายโมเนยยะ. แม้ในบททั้งสอง
ที่เหลือ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน. บทว่า อิทํ วุจฺจติ ภิกฺขเว กายโมเนยฺยํ

ความว่า จริงอยู่ การละกายทุจริต 3 อย่างนี้ ชื่อว่า กายโมเนยยะ. อนึ่ง
แม้กายสุจริต 3 อย่าง ก็ชื่อว่า กายโมเนยยะ. ญาณที่มีกายเป็นอารมณ์ ก็ชื่อว่า
กายโมเนยยะเหมือนกัน. การกำหนดรู้กาย ก็ชื่อว่า กายโมเนยยะ. มรรค
ที่สหรคตด้วยปริญญา ก็ชื่อว่า กายโมเนยยะ. การละฉันทราคะทางกาย
ก็ชื่อว่า กายโมเนยยะ. การดับกายสังขาร และการเข้าจตุตถฌาน ก็ชื่อว่า
กายโมเนยยะ แม้ในวจีโมเนยยะ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน.
ส่วนในวจีโมเนยยะ และมโนโมเนยยะ นี้มีความแตกต่างกัน
ดังต่อไปนี้ ในที่นั้น พึงทราบการเข้าทุติยฌาน คือการดับวจีสังขารว่า ชื่อว่า
วจีโมเนยยะ เหมือนการเข้าจตุตถฌานในที่นี้. ครั้นทราบเนื้อความในมโน-
โมเนยยะ โดยนัยแม้นี้แล้วก็ควรทราบ การเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ คือการ
ดับจิตสังขารว่า ชื่อว่า มโนโมเนยยะ.
บทว่า กายมุนึ ได้แก่ผู้รู้ คือ ผู้สูงสุด ได้แก่ผู้บริสุทธิ์ในกายทวาร
หรือผู้รู้ทางกาย. แม้ในบททั้งสองที่เหลือ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน. บทว่า
สพฺพปฺปหายินํ ได้แก่พระขีณาสพ. เพราะว่า พระขีณาสพชื่อว่า สัพพปหายี
(ผู้ละได้ทั้งหมด) ฉะนี้แล.
จบอรรถกถาโมเนยยสูตรที่ 10
จบอาปายิกวรรควรรณนาที่ 2


รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. อาปายิกสูตร 2. ทุลลภสูตร 3. อัปปเมยยสูตร 4. อาเนญช-
สูตร 5. อยสูตร 6. อปัณณกสูตร 7. กัมมันตสูตร 8. ปฐมโสเจยยสูตร
9. ทุติยโสเจยยสูตร 10. โมเนยยสูตร และอรรถกถา.