เมนู

ตะแคงขวาบนแผ่นหินหรือบนเตียง พิจารณาว่า กายไม่มีใจนอนอยู่บนเตียง
ที่ไม่มีใจ เตียงที่ไม่มีใจ ก็วางอยู่บนปฐพีที่ไม่มีใจ ปฐพีที่ไม่มีใจ ก็อยู่
เหมือน้ำที่ไม่มีใจ น้ำที่ไม่มีใจ ก็อยู่เหนือลมที่ไม่มีใจ ลมที่ไม่มีใจ ก็อยู่
บนอากาศที่ไม่มีใจ บรรดาสิ่งเหล่านั้น แม้อากาศก็ไม่รู้ว่า เราอุ้มลมไว้
ถึงลมก็ไม่รู้ว่า เราสถิตอยู่บนอากาศ ถึงลมก็เช่นนั้นไม่รู้ว่า เราอุ้มน้ำไว้
ฯลฯ เตียงก็ไม่รู้ว่า เรายกกายไว้ กายก็ไม่รู้ว่า เราอยู่บนเตียง เป็นอันว่า
สิ่งเหล่านั้น ต่างฝ่ายต่างไม่มีการคำนึงถึงกัน ไม่มีการสนใจกัน ไม่มีการ
ใส่ใจกัน ไม่มีเจตนา หรือไม่มีความปรารถนาต่อกันเลย ดังนี้ เมื่อภิกษุนั้น
พิจารณาอยู่อย่างนี้ ปัจจเวกขณจิตนั้น ย่อมหยั่งลงสู่ภวังค์. เธอแม้เมื่อหลับ
อยู่อย่างนี้ ก็ย่อมชื่อว่า มีสติสัมปชัญญะอยู่.
บทว่า อุฏฺฐานสญฺญํ มนสิกริตฺวา ความว่า ใส่ใจถึงสัญญาที่
กำหนดเวลาลุกขึ้นว่า เมื่อดวงจันทร์หรือดวงดาว ขึ้นถึงตรงนี้ เราจักลุกขึ้น
อธิบายว่า วางสัญญาไว้ในใจ. เพราะว่า เมื่อภิกษุนั้นปฏิบัติอย่างนี้แล้วนอน
ก็จะลุกขึ้นได้ตรง ในเวลาตามที่กำหนดไว้แล้วนั่นแล.
จบอรรถกถาอปัณณกสูตรที่ 6

7. อัตตสูตร



ธรรมที่อำนวยให้เบียดเบียนและไม่เบียดเบียนตน



[456] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 3 ประการนี้ ย่อมเป็นไปทั้ง
เพื่อเบียดเบียนตน ... ทั้งเพื่อเบียดเบียนคนอื่น ... ทั้งเพื่อเบียดเบียนด้วยกัน
ทั้ง 2 ฝ่าย ธรรม 3 ประการคืออะไรบ้าง คือกายทุจริต วจีทุจริต