เมนู

ส่วนสมณะ หรือพราหมณ์เหล่าใด ๆ รู้แจ้งชัดซึ่งอัสสาทะ อาทีนพ
และนิสสรณะของโลก อย่างถูกต้องตามจริง สมณะ หรือพราหมณ์เหล่านั้น
เรานับว่าเป็นสมณะในสมณะทั้งหลาย นับว่าเป็นพราหมณ์ในพราหมณ์ทั้งหลาย
อนึ่ง เธอเหล่านั้นย่อมทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเอง ซึ่งประโยชน์
แห่งความเป็นสมณพราหมณ์สำเร็จอยู่ในปัจจุบันนี้ได้.
จบสมณสูตรที่ 4

อรรถกถาสมณสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในสมณสูตรที่ 4 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า สามญฺญตฺถํ ได้แก่อริยผลทั้ง 4 อย่าง. บทนอกนี้เป็น
ไวพจน์ของบทว่า สามญฺญตฺถํ ทั้งนั้น. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่ามรรค 4 เพราะ
อรรถว่า ความเป็นสมณะ ชื่อว่า ผล 4 เพราะอรรถว่า ความเป็นพรหม.
ก็ในพระสูตรทั้ง 4 เหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงขันธโลกอย่างเดียว.
จบอรรถกถาสมณสูตรที่ 4

5. โรณสูตร



ว่าด้วยความร่าเริงและความเบิกบานในธรรม



[547] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การร้องไห้ในวินัยของพระอริยะ คือ
การขับร้อง ความเป็นบ้าในวินัยของพระอริยะ คือการฟ้อนรำ ความเป็น
เด็กในวินัยของพระอริยะ คือการหัวเราะจนเห็นฟันอย่างพร่ำเพรื่อ เพราะ

เหตุนั้น ในเรื่องนี้ พึงชักสะพานเสีย ในส่วนการขับร้อง การฟ้อนรำ
(ส่วนการหัวเราะนั้น) เมื่อท่านทั้งหลายเกิดธรรมปราโมทย์ (ความยินดีร่าเริง
ในธรรม) ก็ควรแต่เพียงยิ้มแย้ม.
จบโรณสูตรที่ 5

อรรถกถาโรสูตร



สูตรที่ 5 ข้าพเจ้าจะยกเรื่องขึ้นแสดง ตามอัตถุปปัตติ (เรื่องราวที่
เกิดขึ้น). ถามว่า เรื่องราวเกิดขึ้นอย่างไร. ตอบว่า เรื่องเกิดขึ้นในเพราะ
อนาจาร (การประพฤตินอกรีดนอกรอย) ของพระฉัพพัคคีย์ทั้งหลาย. เล่ากัน
มาว่า พระฉัพพัคคีย์เหล่านั้น ขับร้อง ฟ้อนรำ หัวเราะ เที่ยวไป. ภิกษุ
ทั้งหลาย พากันกราบทูลพระทศพล พระบรมศาสดาตรัสเรียกภิกษุฉัพพัคคีย์
เหล่านั้นมา แล้วทรงปรารภพระสูตรนี้ เพื่อพุทธประสงค์ จะทรงสั่งสอน
ภิกษุเหล่านั้น.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า รุณฺณํ แปลว่า การร้องไห้. บทว่า
อุมฺมตฺตกํ ได้แก่ กิริยาของคนบ้า. บทว่า โกมาริกํ ได้แก่ เรื่องที่เด็ก ๆ
จะต้องกระทำ. บทว่า ทนฺตวิทํสกหสิตํ ได้แก่ การหัวเราะด้วยเสียงอันดัง
ของผู้ยิงฟัน ปรบมือ. ด้วยบทว่า เสตุฆาโต คีเต พระผู้มีด้วยเสียงอันดัง
ทรงแสดงว่า การตัดปัจจัย ในการขับร้องของเธอทั้งหลาย จงยกไว้ก่อน
เธอทั้งหลาย จะละการขับร้อง พร้อมทั้งเหตุ. แม้ในการฟ้อนรำ ก็มีนัยนี้
เหมือนกัน.