เมนู

อรรถกถามนุสสสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในมนุสสสูตรที่ 2 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อสฺสาทปริเยสนํ อจรึ ความว่า ได้ท่องเที่ยวไป เพื่อ
ประโยชน์แก่การแสวงหาอัสสาทะ. ถามว่า ได้ท่องเที่ยวไป จำเดิมแต่ไหน ?
ตอบว่า ได้ท่องเที่ยวไป ตั้งแต่เป็นสุเมธดาบส*. บทว่า ปญฺญาย ได้แก่
มรรคปัญญา พร้อมด้วยวิปัสสนา. บทว่า สุทิฏฺโฐ ได้แก่แทงตลอดแล้ว
ด้วยดี. พึงทราบความในทุก ๆ บท โดยอุบายนี้.
จบอรรถกถามนุสสสูตรที่ 2

3. อัสสาทสูตร



ว่าด้วยเหตุให้หลุดพ้นจากโลก



[545] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าอัสสาทะในโลกจักไม่มีแล้วไซร้
สัตว์ทั้งหลายก็จะไม่พึงติดใจในโลก เพราะเหตุที่อัสสาทะในโลกมีอยู่ เพราะ
เหตุนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงติดใจในโลก
ถ้าอาทีนพในโลกจักไม่มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็จะไม่พึงเบื่อหน่าย
ในโลก เพราะเหตุที่อาทีนพในโลกมีอยู่ เพราะเหตุนั้น สัตว์ทั้งหลายจึง
เบื่อหน่ายในโลก
ถ้านิสสรณะในโลกจักไม่มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็จะไม่พึงออกจาก
โลกได้ ก็เพราะเหตุที่นิสสรณะในโลกมีอยู่ เพราะเหตุนั้น สัตว์ทั้งหลายจึง
ออกจากโลกได้
* ปาฐะว่า ปฏฺฐาย ฉบับพม่าเป็น ปฏฺฐายาติ

ภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายยังไม่รู้ชัดซึ่งอัสสาทะ อาทีนพ และ
นิสสรณะของโลกอย่างถูกต้องตามจริงตราบใด สัตว์ทั้งหลายก็ยังมีใจถูกกักขัง
ยังติด ยังไม่หลุด ยังไม่พ้น จากโลกนี้ ทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก จาก
หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ทั้งที่เป็นเทวดาและมนุษย์อยู่ตราบนั้น เมื่อใด
สัตว์ทั้งหลายรู้แจ้งชัดซึ่งอัสสาทะ อาทีนพ และนิสสรณะของโลกอย่างถูกต้อง
ตามจริงแล้ว เมื่อนั้นสัตว์ทั้งหลายจึงมีใจไม่ถูกกักขัง ออกได้หลุดพ้นไปจาก
โลกนี้ ทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก จากหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพรหมณ์
ทั้งที่เป็นเทวดาและมนุษย์.
จบอัสสาทสูตรที่ 3

ข้อความในบททั้งปวง ในสูตรที่ 3 ง่ายทั้งนั้น.

4. สมณสูตร



ว่าด้วยผู้ควรยกย่องเป็นสมณะและพราหมณ์



[546] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ๆ ไม่รู้
แจ้งชัดซึ่งอัสสาทะ อาทีนพ และนิสสรณะของโลกอย่างถูกต้องตามจริง
สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เราไม่นับว่าเป็นสมณะในสมณะทั้งหลาย ไม่
นับว่าเป็นพราหมณ์ในพราหมณ์ทั้งหลาย อนึ่ง สมณพราหมณ์เหล่านั้น หาทำ
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเอง ซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณพราหมณ์
ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง สำเร็จอยู่ปัจจุบันนี้ได้ไม่