เมนู

อรรถกถานวสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในนวสูตรที่ 8 ดังต่อไปนี้ :-
ผ้าที่ตรัสว่าใหม่ เพราะอาศัยการกระทำ. ผ้าที่ทำจากปอ ชื่อว่า
โปตถกะ. ผ้าที่ชื่อว่า ปานกลาง ได้แก่ ผ้ากลางเก่ากลางใหม่เพราะใช้.
ผ้าที่ชื่อว่า เก่า ได้แก่ ผ้าเก่าเพราะใช้. บทว่า อุกฺขลิปริมชฺชนํ ได้แก่
เป็นผ้าเช็ดหม้อข้าว. บทว่า ทุสฺสีโล ได้เเก่ ไม่มีศีล. บทว่า ทุพฺพณฺณตาย
ได้แก่ เพราะเป็นผู้มีผิวพรรณทราม เนื่องจากไม่มีสี คือคุณ. บทว่า
ทิฏฺฐานุคตึ อาปชฺชนฺติ ได้แก่ ภิกษุทั้งหลายพากันทำตามอย่างที่ภิกษุนั้น
ทำไว้แล้ว. บทว่า น มหปฺผลํ โหติ ความว่า ไม่มีผลมาก โดยผลคือ
วิบาก. บทว่า น มหานิสํสํ ความว่า ไม่มีอานิสงส์มาก โดยอานิสงส์คือ
วิบาก. บทว่า อปฺปคฺฆตาย ได้แก่ เพราะการรับนั้นมีค่าน้อย โดยค่าคือ
วิบาก. บทว่า กาสิกํ วตฺถํ ได้แก่ ผ้าที่ทอโดยปั่นด้ายจากฝ้าย. ก็แลผ้า
ชนิดนั้นเกิดขึ้นเฉพาะในแคว้นกาสี.
บทที่เหลือง่ายทั้งนั้น. ส่วนศีลในสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้
ปนกันแล.
จบอรรถกถานวสูตรที่ 8

9. โลณกสูตร



ว่าด้วยการให้ผลของกรรม



[540] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ใครพึงกล่าวว่า คนทำกรรมอย่างใดๆ
ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้น ๆ ดังนี้ เมื่อเป็นอย่างนั้น การอยู่ประพฤติพรหม-
จรรย์ก็มีไม่ได้ ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ไม่ปรากฏ ส่วนใครกล่าวว่า
คนทำกรรมอันจะพึงให้ผลอย่างใด ๆ ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้น ๆ
ดังนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้ ช่องทางที่จะทำ
ที่สุดทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ.
ภิกษุทั้งหลาย บาปกรรมแม้ประมาณน้อย ที่บุคคลลางคนทำแล้ว
บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้ บาปกรรมประมาณน้อย อย่างเดียวกันนั้น
ลางคนทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม (ให้ผลในภพปัจจุบัน)
ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย
บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลชนิดไรทำแล้ว บาปกรรมนั้นจึง
นำเขาไปนรกได้ ? บุคคลลางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีกายมิได้อบรม มีศีลมิได้
อบรม มีจิตมิได้อบรม มีปัญญามิได้อบรม มีคุณความดีน้อย เป็นอัปปาตุมะ
(ผู้มีใจคับแคบ ใจหยาบ ใจต่ำทราม) เป็นอัปปทุกขวิหารี (มีปกติอยู่เป็น
ทุกข์ด้วยเหตุเล็กน้อย คือเป็นคนเจ้าทุกข์) บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคล
ชนิดนี้ทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้
บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกัน บุคคลชนิดไรทำแล้ว กรรม
นั้นจึงเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย ? บุคคลลางคน
ในโลกนี้ เป็นผู้มีกายได้อบรมแล้ว มีศีลได้อบรมแล้ว มีจิตได้อบรมแล้ว