เมนู

โลณผลวรรคที่ 5



1.อัจจายิกสูตร



ว่าด้วยกิจรีบด่วนของชาวนาและภิกษุ



[532] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อัจจายิกกรณียะ (กิจที่ต้องรีบทำ)
ของคฤหบดีชาวนา 3 นี้ อัจจายิกกรณียะ 3 คืออะไรบ้าง คือ คฤหบดี
ชาวนารีบ ๆ ไถคราดพื้นที่นาให้ดี ครั้นแล้วรีบ ๆ ปลูกพืช ครั้นแล้วรีบ ๆ
ไขน้ำเข้าบ้าง ไขน้ำออกบ้าง นี้แล อัจจายิกกรณียะ ของคฤหบดีชาวนา 3
แต่ว่าคฤหบดีชาวนานั้นไม่มีฤทธิ์หรืออานุภาพที่จะบันดาลให้ข้าวงอกในวันนี้
ตั้งท้องพรุ่งนี้ สุกมะรืนนี้ ที่ถูกย่อมมีสมัย ที่ข้าวนั้นเปลี่ยนสภาพไปตามฤดู
ย่อมจะงอกบ้าง ตั้งท้องบ้าง สุกบ้าง
ฉันเดียวกันนั่นแล ภิกษุทั้งหลาย อัจจายิกกรณียะของภิกษุ 3 นี้
คืออะไรบ้าง คือการบำเพ็ญอธิสีลสิกขา การบำเพ็ญอธิจิตตสิกขา การบำเพ็ญ
อธิปัญญาสิกขา นี้แล อัจจายิกกรณียะของภิกษุ 3 แต่ภิกษุนั้นไม่มีฤทธิ์หรือ
อานุภาพที่จะบันดาลให้จิตของตนเลิกยึดถือหลุดพ้นจากอาสวะ ในวันนี้ หรือ
พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ได้ ที่ถูก ย่อมมีสมัย ที่เมื่อภิกษุนั้นศึกษาอธิศีลไป
ศึกษาอธิจิตไป ศึกษาอธิปัญญาไป จิตย่อมจะเลิกยึดถือ หลุดพ้นจากอาสวะได้
เพราะเหตุนั้น ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกในข้อนี้ว่า ฉันทะของเรา
ในการบำเพ็ญอธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญญาสิกขาต้องกล้าแข็ง
ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.
จบอัจจายิกสูตรที่ 1

โลณผลวรรควรรณนาที่ 5



อรรถกถาอัจจายิกสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในอัจจายิกสูตรที่ 1 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อจฺจายิกานิ แปลว่า รีบด่วน. บทว่า กรณียานิ แปลว่า
กิจที่ต้องทำอย่างแน่แท้ ก็ธุระใดไม่ต้องทำเป็นการแน่แท้ ธุระนั้นเรียกว่ากิจ
(งานอดิเรก) ธุระที่ต้องทำเป็นการแน่แท้ชื่อว่า กรณียะ (งานประจำ). บทว่า
สีฆสีฆํ แปลว่า โดยเร็ว ๆ. บทว่า ตํ ในคำว่า ตสฺส โข ตํ นี้ เป็น
เพียงนิบาต. บทว่า นตฺถิ สา อิทฺธิ วา อานุภาโว วา ความว่า
ฤทธิ์นั้นหรืออานุภาพนั้นไม่มี.
บทว่า อุตฺตรเสฺว ได้แก่ ในวันที่ 3 (วันมะรืน). บทว่า อุตุ-
ปริณามีนิ
ได้แก่ ธัญชาติทั้งหลายได้ความเปลี่ยนแปลงฤดู. บทว่า ชายนฺติปิ
ได้แก่ มีหน่อสีขาวงอกออกในวันที่ 3 เมื่อครบ 7 วัน หน่อก็กลับเป็นสีเขียว.
บทว่า คพฺภินีปิ โหนฺติ ความว่า ถึงเวลาเดือนครึ่งก็ตั้งท้อง. บทว่า
ปจนฺติปิ ความว่า ถึงเวลา 3 เดือนก็สุก.
บัดนี้ เพราะเหตุที่ พระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่มีความต้องการด้วย
คฤหบดีหรือด้วยข้าวกล้า แต่ที่ทรงนำอุปมานั้น ๆ มาก็เพื่อจะทรงแสดง
บุคคลหรืออรรถที่เหมาะสมกับเทศนานั้นในศาสนา ฉะนั้น เมื่อจะทรงแสดง
ความหมายที่พระองค์ทรงประสงค์จะแสดง (ซึ่งเป็นเหตุให้) นำอุปมานั้นมา
จึงตรัสคำว่า เอวเมว โข เป็นต้น. สูตรนั้น เมื่อว่าโดยอรรถ ง่ายทั้งนั้นแล.
ก็ สิกขา พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสไว้คละกัน แม้ในสูตรนี้.
จบอรรถกถาอัจจายิกสูตรที่ 1