เมนู

7. ตติยเสขสูตร



ว่าด้วยเสขบุคคล



[527] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิกขาบทที่สำคัญ 150 นี้ ย่อมมาสู่
อุทเทสทุกกึ่งเดือน ฯลฯ* นี้แล สิกขา 3 ที่สิกขาบททั้งปวงนั่นรวมกันอยู่
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ที่เป็นผู้ทำให้บริบูรณ์ในศีล
ทำพอประมาณในสมาธิและในปัญญา ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบท
ทั้งหลาย ภิกษุนั้น เพราะสิ้นสังโยชน์ 3 เป็นสัตตักขัตตุปรมะ เวียนว่าย
ตายเกิดไปในเทวโลกและมนุษยโลก 7 ชาติเป็นอย่างมาก ก็ทำที่สุดทุกข์
(คือทำทุกข์ให้สิ้น. สำเร็จพระอรหัต) ได้ เป็น โกลังโกละ เวียนว่าย
ตายเกิดไป 2 หรือ 3 ชาติ ก็ทำที่สุดทุกข์ได้ เป็นเอกพีชี เกิดเป็นมนุษย์
อีกชาติเดียว ก็ทำที่สุดทุกข์ได้
ภิกษุนั้น เพราะสิ้นสังโยชน์ 3 ราคะโทสะโมหะเบาบาง เป็น
สกทาคามี มาสู่โลกนี้อีกคราวเดียวก็ทำที่สุดทุกข์ได้
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ที่เป็นผู้ทำให้บริบูรณ์
ในศีลและในสมาธิ ทำพอประมาณในปัญญา ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ใน
สิกขาบททั้งหลาย ภิกษุนั้น เพราะสิ้นสังโยชน์เบื้องต่ำ เป็น อุทธังโสโต-
อกนิฏฐคามี
(ผู้มีกระแสในเบื้องบนไปถึงอกนิฏฐภพ) เป็น สสังขาร-
ปรินิพพายี
(ผู้ปรินิพพานด้วยต้องใช้ความเพียรเรี่ยวแรง) เป็น อสังขาร-
ปรินิพพายี
(ผู้ปรินิพพานด้วยไม่ต้องใช้ความเพียรนัก) เป็น อุปหัจจ-
ปรินิพพายี
(ผู้ปรินิพพานเมื่ออายุพ้นกึ่งแล้วจวนถึงที่สุด) เป็น อันตรา-
ปรินิพพายี
(ผู้ปรินิพพานในระหว่างอายุยังไม่ถึงกึ่ง)
* ความพิสดารเหมือน ทุติยเสขสูตร