เมนู

8. สีลัพพตสูตร



ว่าด้วยผลแห่งศีลพรต



[518] ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ฯลฯ
ตรัสถามท่านพระอานนท์ว่า อานนท์ ศีลพรต ชีวิต พรหมจรรย์ ที่ปฏิบัติ
บำรุงกันเป็นหลักฐาน มีผลไปทั้งหมดหรือ.
อา. ข้อนี้ จะพยากรณ์โดยส่วนเดียวมิได้ พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ถ้าเช่นนั้น จงจำแนกไป.
อา. บุคคลเสพ (คือประพฤติให้เป็นไป) ซึ่งศีลพรต ชีวิต พรหมจรรย์
ที่ปฏิบัติบำรุงกันเป็นหลักฐานอันใด อกุศลธรรมเจริญ กุศลธรรมเสื่อม
ศีลพรต ชีวิต พรหมจรรย์ ที่ปฏิบัติบำรุงกันเป็นหลักฐานอย่างนี้ เป็นการ
ไม่มีผล ส่วนว่าบุคคลเสพศีลพรต ชีวิต พรหมจรรย์ ที่ปฏิบัติบำรุงกันเป็น
หลักฐานอันใด อกุศลธรรมเสื่อม กุศลธรรมเจริญ ศีลพรต ชีวิต พรหม-
จรรย์ ที่ปฏิบัติบำรุงกันเป็นหลักฐานอย่างนี้ เป็นการมีผล พระพุทธเจ้าข้า.
ท่านพระอานนท์กราบทูลตอบอย่างนี้ พระศาสดาทรงพอพระหฤทัย
ทราบว่าทรงพอพระหฤทัยแล้ว ท่านพระอานนท์ก็ลุกจากที่นั่งถวายอภิวาท ทำ
ประทักษิณแล้วออกไป พอท่านพระอานนท์ออกไปไม่นาน ตรัสเรียกภิกษุ
ทั้งหลายมา (ทรงชมท่านพระอานนท์) ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานนท์ยังเป็น
พระเสขะว่าในทางปัญญาละก็หาผู้เสมอได้ยาก.
จบสีลัพพตสูตรที่ 8

อรรถกถาสีลัพพตสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในสีลัพพตสูตรที่ 8 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า สีลพฺพตํ ได้แก่ศีลและพรต. บทว่า ชีวิตํ ได้แก่ความเพียร
ของผู้ทำกรรม ที่ทำได้โดยยาก. บทว่า พฺรหฺมจริยํ ได้แก่การอยู่ประพฤติ
พรหมจรรย์. บทว่า อุปฏฺฐานสารํ ความว่า ศีลเป็นต้นนี้ ชื่อว่าเป็นสาระ
เพราะเป็นธรรมเครื่องปรากฏ อธิบายว่า ปรากฏอย่างนี้ว่า ศีลเป็นต้นนี้
เป็นแก่นสาร ศีลเป็นต้นนี้เป็นของประเสริฐ ศีลเป็นต้นนี้ เป็นเหตุให้สำเร็จ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า ศีลเป็นต้นนี้ เป็นของมีกำไร คือมีความเจริญ
ด้วยบทว่า สผลํ ดังนี้. บทว่า น เขฺวตฺถ ภนฺเต เอกํเสน ความว่า
(พระอานนท์ตอบว่า) ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในข้อนี้ ไม่ควรพยากรณ์โดย
ส่วนเดียวเลย. บทว่า อุปฏฺฐานสารํ เสวโต ความว่า เมื่อเสพศีลเป็นต้น
ที่เป็นสาระ คือเป็นเครื่องปรากฏอย่างนี้ว่า ศีลเป็นต้นนี้ เป็นสาระ เป็นสิ่ง
ประเสริฐ เป็นเหตุให้สำเร็จ.
บทว่า อผลํ ความว่า ไม่มีผล โดยผลที่ต้องการ. ด้วยคำโต้ตอบ
เพียงเท่านี้ เป็นอันถือเอาลัทธิภายนอกแม้ทั้งหมดที่เหลือ เว้นการบรรพชา
ของกรรมวาทีบุคคล และกิริยวาทีบุคคล. บทว่า สผลํ ได้แก่มีผล คือมีกำไร
โดยผลที่ต้องประสงค์ ด้วยคำโต้ตอบเพียงเท่านี้ เป็นอันถือเอาบรรพชาของ
กรรมวาทีบุคคล และกิริยวาทีบุคคล แม้ทั้งหมด ตั้งต้นแต่ (พุทธ) ศาสนานี้.
ด้วยบทว่า น จ ปนสฺส สุลภรูโป สมสโม ปญฺญาย นี้ พระผู้มี-
พระภาคเจ้าทรงแสดงว่า ผู้ที่ตั้งอยู่ในเสขภูมิตอบปัญหาได้อย่างนี้ ที่จะเสมอ
ด้วยปัญญาของพระอานนท์นั้น หาไม่ได้ง่าย. ธรรมชื่อว่า เสขภูมิ พระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสไว้แล้วในพระสูตรนี้.
จบอรรถกถาสีลัพพตสูตรที่ 8