เมนู

ธรรมจักร ที่ไม่มีจักรใดเสมอเหมือนให้เป็นไปโดยโลกุตรธรรม 9 นั่นแล.
บทว่า ตํ โหติ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ ความว่า จักรคือธรรมนั้น ที่พระตถาคต-
เจ้าให้หมุนไปแล้วอย่างนั้น อันใคร ๆ แม้สักคนหนึ่ง ในบรรดาบุคคลเหล่านี้
มีสมณะเป็นต้น ไม่สามารถจะให้หมุนกลับคือขัดขวางได้. บทที่เหลือในที่
ทุกแห่ง ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาจักกวัตติสูตรที่ 4

5. ปเจตนสูตร



ว่าด้วยความคดของไม้กับคน



[454] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อิสิปตน-
มิคทายวัน
ใกล้กรุงพาราณสี พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเรียกภิกษุทั้ง
หลายในที่นั้นแล ด้วยพระพุทธพจน์ว่า ภิกฺขโว แน่ะภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
เหล่านั้นกราบทูลขานรับต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคำว่า ภทนฺเต พระพุทธ-
เจ้าข้า แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ยังมีพระราชานามว่า
ปเจตนะ ครั้งนั้น พระเจ้าปเจตนะ ตรัสเรียกช่างทำรถมารับสั่งว่าแน่ะ
สหายช่างทำรถ แต่นี้ล่วงไป 6 เดือน สงความจักมีแก่ข้า เจ้าอาจทำล้อรถ
ใหม่คู่หนึ่งให้ข้าได้หรือไม่ ช่างทำรถทูลรับต่อพระเจ้าปเจตนะว่า ได้พระเจ้า
ข้า ครั้งนั้น ช่างทำรถทำล้อได้ข้างเดียวสิ้นเวลาถึง 6 เดือนหย่อนอยู่ 6 วัน
พระเจ้าปเจตนะจึงตรัสเรียกช่างทำรถมารับสั่งถามว่า แน่ะสหายช่างทำรถ

แต่นี้ล่วงไป 6 วัน สงครามจักเกิดละ ล้อรถคู่ใหม่สำเร็จแล้วหรือ ช่างทำ
รถทูลว่า ขอเดชะ โดยเวลา 6 เดือนหย่อนอยู่ 6 วันนี้ ล้อสำเร็จได้ข้างเดียว
พระราชารับสั่งว่า ก็เจ้าจะทำล้อข้างที่ 2 ให้สำเร็จโดยเวลา 6 วันนี้ได้หรือไม่
ช่างทำรถทูลรับว่า ได้ แล้วก็ทำล้อข้างที่ 2 สำเร็จโดยเวลา 6 วัน แล้วนำล้อคู่
ใหม่ไปเฝ้าพระเจ้าปเจตนะ ครั้นเข้าไปถึงแล้วกราบทูลว่า นี่พระเจ้าข้า ล้อ
รถคู่ใหม่ของพระองค์สำเร็จแล้ว พระราชารับสั่งว่า สหายช่างทำรถ ล้อข้าง
ที่ทำแล้ว 6 เดือนหย่อน 6 วัน กับล้อข้างที่ทำแล้ว 6 วันนี้ ต่างกันอย่างไร
ข้าไม่เห็นความต่างกันสักหน่อย ช่างทูลว่า มีอยู่ พระเจ้าข้า ความต่างกัน
ของล้อทั้งสองนั้น ขอเชิญพระองค์ทอดพระเนตรความต่างกัน ว่าแล้วช่างทำ
รถก็หมุนล้อข้างที่ทำแล้ว 6 วัน มันกลิ้งไปพอสุดกำลังหมุนแล้วก็ตะแคงล้มลง
ดิน แล้วก็หมุนข้างที่ทำ 6 เดือนหย่อน 6 วัน มันกลิ้งไปสุดกำลังหมุน
แล้วก็ตั้งอยู่ราวกะติดอยู่กับเพลา.
พระเจ้าปเจตนะตรัสถามว่า เหตุอะไร ปัจจัยอะไร สหายช่างทำรถ
ล้อข้างที่ทำแล้ว 6 วันนี้ กลิ้งไปสุดกำลังหมุนแล้วจึงตะแคงล้มลงดิน ... ล้อ
ข้างที่ทำแล้ว 6 เดือนหย่อน 6 วันนั้น กลิ้งไปสุดกำลังหมุนแล้วจึงตั้งอยู่ราว
กะติดอยู่กับเพลา ช่างทูลชี้แจงว่า ข้าแต่สมมติเทพ ล้อข้างที่ทำแล้ว 6 วัน
นี้ กงของมันก็ประกอบด้วยไม้ที่คด ที่มีโทษ ที่มีกสาวะ กำ ... ดุมก็ประกอบ
ด้วยไม้ที่คด ที่มีโทษที่มีกสาวะ เพราะความที่กง ... กำ ... ดุมประกอบด้วย
ไม้ที่คด ที่มีโทษที่มีกสาวะ มันกลิ้งไปสุดกำลังหมุนแล้วจึงตะแคงล้มลงดิน
ไม้มีกสาวะ กำ... ดุม ก็ไม่มีคด ไม่มีโทษ ไม่มีกสาวะ เพราะความที่กง
... กำ ... ดุม ไม่มีคด ไม่มีโทษ ไม่มีกสาวะ มันกลิ้งไปสุดกำลังหมุนแล้ว
จึงตั้งอยู่ได้ราวกะติดอยู่กับเพลา.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายคงนึกอย่างนี้ว่า ช่างทำรถคราวนั้น
เป็นคนอื่นเป็นแน่ แต่ท่านทั้งหลายอย่าเข้าใจอย่างนั้น เราเองเป็นช่างทำรถ
สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลาย เมื่อครั้งนั้น เราเป็นผู้ฉลาดต่อความคดของไม้ โทษ
ของไม้ กสาวะของไม้ แต่กาลบัดนี้ เราเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ เป็น
ผู้ฉลาดต่อความคดทางกาย ... ทางวาจา ... ทางใจ ต่อโทษ ... ต่อกสาวะทางกาย
... ทางวาจา ... ทางใจ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความคด ... โทษ ... กสาวะทางกาย ... ทางวาจา
..ทางใจ ของผู้ใดผู้หนึ่ง ภิกษุก็ตาม ภิกษุณีก็ตาม ยังละไม่ได้แล้ว ภิกษุ
ภิกษุณีเหล่านั้นก็ตกไปจากพระธรรมวินัยนี้เหมือนล้อรถที่ทำแล้ว 6 วันฉะนั้น
ความคด ... โทษ ... กสาวะทางกาย ... ทางวาจา ... ทางใจ ของผู้ใดผู้หนึ่ง
ภิกษุก็ตาม ภิกษุณีก็ตาม ละได้แล้ว ภิกษุภิกษุณีเหล่านั้นก็ตั้งมั่นอยู่ในพระธรรม
วินัยนี้ได้ เหมือนล้อรถที่ทำแล้ว 6 เดือนหย่อน 6 วันฉะนั้น.
เพราะเหตุนั้น ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย พึงสำเหนียกในข้อนี้
อย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักละความคดทางกาย โทษทางกาย กสาวะทางกาย
จักละความคดทางวาจา โทษทางวาจา กสาวะทางวาจา จักละความคดทางใจ
โทษทางใจ กสาวะทางใจ ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.
จบปเจตนสูตรที่ 5

อรรถกถาปเจตนสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในปเจตนสูตรที่ 5 ดังต่อไปนี้:-

ความหมายของคำว่า อิสิปตนะ



บทว่า อิสิปตเน ความว่า อันเป็นที่ที่พวกฤาษี กล่าวคือพระ-
พุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้ามาพัก เพื่อประกาศธรรมจักร และเพื่อต้อง
การทำอุโบสถ อธิบายว่า สถานที่ประชุม. ปาฐะว่า ปทเน ดังนี้ ก็มี.
ความหมายก็อย่างนี้เหมือนกัน. บทว่า มิคทาเย ความว่า ในป่าที่พระราชทาน
เพื่อต้องการให้เป็นสถานที่ที่ไม่มีภัย สำหรับเนื้อทั้งหลาย.
บทว่า ฉหิ มาเสหิ ฉารตฺตูเนหิ ความว่า ได้ยินว่า ช่างรถนั้น
จัดแจงอุปกรณ์ทุกชนิด แล้วเข้าป่าพร้อมด้วยอันเตวาสิก ในวันที่ได้รับกระแส
พระบรมราชโองการเลยทีเดียว เว้นต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ตามประตูหมู่บ้าน กลาง
หมู่บ้าน เทวสถาน และสุสานเป็นต้น และต้นไม้ที่ถูกไฟไหม้ ต้นไม้ล้ม
และต้นไม้แห้ง เลือกเอาต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ในภูมิประเทศที่ดี ปราศจากโทษทั้ง
หมด สมควรใช้ทำดุม ซี่ กำและกงได้ มาทำเป็นล้อรถนั้น เมื่อช่างไม้
เลือกเอาต้นไม้มาทำเป็นล้อรถอยู่นั้น เวลาเท่านี้ 6 เดือนหย่อน 6 ราตรี ก็
ล่วงเลยไป ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ฉหิ มาเสหิ
ฉารตฺตูเนหิ
ดังนี้.
บทว่า นานากรณํ ได้แก่ ความแตกต่างกัน. บทว่า เนสํ ตัด
บทเป็น น เอสํ แปลว่า เรามองไม่เห็นความแตกต่างของล้อเหล่านั้น. บทว่า
อตฺเถสํ ตัดบทเป็น อตฺถิ เอสํ แปลว่า ข้าแต่สมมติเทพ ล้อทั้ง 2 นั้น
มีความแตกต่างกันอยู่. บทว่า อภิสงฺขารสฺส คติ ได้แก่ การหมุนไป.