เมนู

บทว่า ราโค โข ได้แก่ ราคะที่เป็นไปแล้ว ด้วยสามารถแห่ง
ความยินดี. บทว่า อปฺปสาวชฺโช ความว่า มีข้อที่ควรตำหนิน้อย อธิบายว่า
มีโทษน้อย โดยโทษทั้ง 2 สถาน คือด้วยสามารถแห่งโทษที่เป็นโลกวัชชะ
(โทษในปัจจุบัน) บ้าง ด้วยสามารถแห่งโทษที่เป็นวิปากวัชชะ (โทษใน
อนาคต) บ้าง. ข้อนี้อย่างไร. คือมารดาบิดาให้ที่กับน้องเป็นต้น แต่งงานกัน 1
ให้พวกลูกจัดแต่งงานให้กับพี่น้องของลูกเขา 1. ราคะนี้มีโทษน้อย โดยที่
เป็นโลกวัชชะเท่านี้ก่อน. ส่วนราคะที่มีโทษน้อย โดยที่เป็นวิปากวัชชะ
อย่างนี้คือ ชื่อว่าปฏิสนธิในอบาย ที่มีสทารสันโดษเป็นมูลหามีไม่.
บทว่า ทนฺธวิราคี ความว่า ก็ราคะนี้เมื่อจะคลาย ก็จะค่อย ๆ คลาย
ไม่หลุดพ้นไปเร็ว จะติดตามอยู่นาน เหมือน (ผ้า) ที่ย้อมด้วยเขม่าเจือด้วย
น้ำมัน ถึงจะไปสู่ภพอื่น 2-3 ภพ ก็ยังไม่จากไป1 เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า
ทันธวิราคี (คลายออกช้า ๆ) ในข้อนั้นมีเรื่องดังต่อไปนี้ เป็นตัวอย่าง

เรื่องหญิงฆ่าผัว



เล่ากันมาว่า บุรุษผู้หนึ่งประพฤติมิจฉาจาร ต่อภรรยาของพี่ชาย
เขาเองได้เป็นที่รักของหญิงนั้น ยิ่งกว่าสามีของตน. นางพูดกับเขาว่า เมื่อเหตุนี้
ปรากฏแล้ว ข้อครหาอย่างใหญ่หลวงจักมี ท่านจงฆ่าพี่ชายของท่านเสีย เขาข่มขู่
หญิงนั้นว่า ฉิบหายเถิด อีถ่อย มึงอย่าพูดอย่างนี้อีก. นางก็นิ่ง ล่วงไป
2-3 วัน ก็พูดอีก จิตของเขาถึงความลังเล ต่อแต่นั้น ถูกนางรบเร้าถึง
3 ครั้ง จึงพูดว่า เราจะทำอย่างไร ถึงจะได้โอกาส. ลำดับนั้นนางได้บอก
อุบายแก่เขาว่า ท่านจงทำตามที่ข้าพเจ้าบอกเท่านั้น ใกล้บ้านมหากกุธะ
1. ปาฐะว่า คนฺตวาปิ นาคจฺฉตีติ ทนฺธวิราคี เทฺว ติณิ ภวนฺตรานิ อาคจฺฉตีติ ทนฺธวิราคี
ฉบับพม่าเป็น เทฺว ตีณิ ภวนฺตรานิ คนฺตวาปิ นาปคจฺฉตีติ ทนฺธวิราคี เเปลตามฉบับพม่า.

ตรงที่โน้น มีท่าน้ำอยู่ ท่านจงถือเอามีดโต้อันคมไปดักอยู่ที่ตรงนั้น เขาได้ทำ
อย่างนั้นแล้ว. ฝ่ายพี่ชายของเขาทำงานในป่าเสร็จแล้ว กลับบ้าน. นางทำเป็น-
เหมือนมีจิตอ่อนโยนในเขา พูดว่า มาเถิดนาย ฉันจะล้างศีรษะให้ แล้วดูศีรษะ
ให้เขา พูดว่า ศีรษะของนายสกปรก แล้วส่งก้อนมะขามป้อมให้เขาไปด้วย
สั่งว่าท่านจงไปล้างศีรษะที่ท่าชื่อโน้น แล้วกลับมา. เขาไปสู่ท่าตามที่นาง
บอกนั่นแหละ สระผมด้วยฟองมะขามป้อม ลงอาบน้ำดำหัวแล้ว. ครั้งนั้น
น้องชายออกมาจากระหว่างต้นไม้ ฟันเขาที่ก้านคอให้ตายแล้ว กลับเข้าบ้าน.
พี่ชายเมื่อไม่อาจสละความสิเนหาในภรรยาได้ จึงไปเกิดเป็นงูเขียว
ใหญ่ ในเรือนหลังนั้นแหละ. แม้เมื่อนาง (ผู้เป็นภรรยาเก่า) จะยืนก็ตาม
นั่งก็ตาม มันจะตกลงที่ตัว (ของนาง). ต่อมา นางจึงให้ฆ่างูนั้นด้วยเข้าใจว่า
ชะรอยผัวเราจะเป็นงูตัวนี้. เพราะความรักนางผู้เป็นภรรยา มันจึงไปเกิดเป็น
ลูกสุนัข ในเรือนหลังนั้นอีก. นับแต่เวลาที่มันเดินได้ มันจะวิ่งตามหลังนางไป
แม้นางเข้าป่า มันก็ติดตามไปด้วย คนทั้งหลายเห็นนางแล้วก็พูดเย้ยหยันว่า
พรานสุนัขออกแล้ว จักไปไหน. นางสั่งให้ฆ่ามันอีก.
แม้มัน (ตายแล้ว) ก็ไปเกิดเป็นลูกวัวในเรือนหลังนั้นอีก แล้วเดิน
ตามหลังนางไปอย่างนั้นเหมือนกัน. แม้ในคราวนั้น คนทั้งหลายเห็นมันแล้ว
ก็พากัน พูดเย้ยหยันว่า โคบาลออกแล้ว โคทั้งหลายจักไปไหน. นางก็สั่งให้
ฆ่ามันเสียในที่ตรงนั้น. แม้คราวนั้น มันก็ไม่สามารถตัดความสิเนหานาง
ต่อไปได้ ในวาระที่ 4 มันเกิดในท้องของนางแล้วระลึกชาติได้. มันเห็นว่า
ตัวถูกนางฆ่ามา 4 อัตภาพ ตามลำดับแล้ว คิดว่า เราเกิดในท้องของหญิง
ผู้เป็นศัตรู เห็นปานนี้. นับแต่นั้นมา ก็ไม่ยอมให้นางเอามือถูกต้องตัวได้.
ถ้านางถูกต้องตัว เขาจะสะอึกสะอื้นร้องไห้. เวลานั้น ผู้เป็นตาเท่านั้น

จะอุ้มชูเขาได้. ต่อมา เขาเจริญเติบโตแล้ว ตาจึงพูดว่า หลานเอ๋ย เหตุไฉน
เจ้าจึงไม่ยอมให้แม่เอามือถูกตัว ถ้าแม้แม่ถูกตัวเจ้า เจ้าจะร้องไห้สะอึกสะอื้น
ด้วยเสียงอันดัง. เขาได้บอกความเป็นไปทั้งหมดนั้น (แก่ตา) ว่า คุณตาครับ
ผู้นี้ไม่ใช่แม่ของผม แต่เป็นศัตรู. ผู้เป็นตา สวมกอดเขาไว้ แล้วร้องไห้
พูดว่า มาเถิดหลานเอ๋ย เรื่องอะไรพวกเราจะต้องมาอาศัยอยู่ในที่เช่นนี้ดังนี้แล้ว
พาเขาออกจากบ้านไปสู่วิหารแห่งหนึ่ง พากันบวชอยู่ในวิหารนั้น บรรลุ
พระอรหัตทั้งสองคน.
บทว่า มหาสาวชฺโช ความว่า ชื่อว่ามีโทษมาก ด้วยเหตุ 2 สถาน
คือ ด้วยอำนาจโลกวัชชะ 1 ด้วยอำนาจวิปากวัชชะ 1. ข้อนี้เป็นอย่างไร. คือ
ผู้อันโทสะประทุษร้ายแล้ว ย่อมประพฤติผิดในมารดาก็ได้ ในบิดาก็ได้ ใน
พี่ชายน้องชาย พี่สาวน้องสาวก็ได้ ในบรรพชิตก็ได้ ในที่ทุกแห่งที่ผ่านไป
เขาจะได้คำครหาอย่างใหญ่หลวงว่า ผู้นี้ประพฤติผิด แม้ในมารดาบิดา แม้ใน
พี่ชายน้องชาย พี่สาวน้องสาว แม้ในบรรพชิต. โทสะ ชื่อว่ามีโทษมาก
ด้วยสามารถแห่งโทษที่เป็นโลกวัชชะ ดังพรรณนามานี้ก่อน แต่เขาจะได้
เสวยผลในนรก ตลอดกัปด้วยอนันตริยกรรมที่ตนทำไว้ ด้วยอำนาจโทสะ.
โทสะชื่อว่า มีโทษมาก ด้วยอำนาจแห่งโทษที่เป็นวิปากวัชชะ ดังพรรณนา
มานี้แล.
บทว่า ขิปฺปวิราคี แปลว่า คลายเร็ว. อธิบายว่า ผู้ที่ถูกโทสะ
ประทุษร้ายแล้ว ประพฤติผิดในมารดาบิดาบ้าง ในเจดีย์บ้าง ในโพธิพฤกษ์
บ้าง ในบรรพชิตทั้งหลายบ้าง เขาขอลุแก่โทษว่า ท่านทั้งหลายจงอดโทษแก่
ข้าพเจ้า. พร้อมด้วยการขอขมาของเขา กรรมนั้นจะกลับกลายเป็นปกติไป
ทันที.

ส่วนโมหะชื่อว่า มีโทษมาก เพราะเหตุ 2 สถานเหมือนกัน ข้อนี้
อย่างไร. คือ คนที่หลงแล้วเพราะโมหะ จะประพฤติผิดในมารดาบิดาบ้าง ใน
พระเจดีย์บ้าง ในโพธิพฤกษ์บ้าง ในบรรพชิตบ้าง แล้วได้รับการติเตียนใน
ที่ ๆ ตนไปแล้ว ๆ. โมหะชื่อว่ามีโทษมากด้วยสามารถแห่งโทษที่เป็นโลกวัชชะ
อย่างนี้ก่อน. แต่เขาจะต้องเสวยผลในนรกตลอดกัลป์ เพราะอนันตริยกรรม
ที่เขาทำไว้ด้วยอำนาจโมหะ. โมหะชื่อว่ามีโทษมาก แม้ด้วยสามารถแห่งโทษ
ที่เป็นวิปากวัชชะ ดังพรรณนามานี้แล.
บทว่า ทนฺธวิราคี แปลว่า ค่อย ๆ คลายไป อธิบายว่า กรรมที่
ผู้หลงเพราะโมหะทำไว้ จะค่อย ๆ พ้นไป. อุปมาเสมือนหนึ่งว่า หนังหมีที่
เขาฟอกอยู่ถึง 7 ครั้ง ก็ไม่ขาวฉันใด กรรมที่ผู้หลงแล้วเพราะโมหะทำแล้ว
ก็ฉันนั้นเหมือนกัน จะไม่พ้นไปเร็ว คือจะค่อย ๆ พ้นไปฉะนี้แล. คำที่เหลือ
ในพระสูตรนี้ ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาติตถิยสูตรที่ 8

9. มูลสูตร



ว่าด้วยกุศลมูลและอกุศลมูล



[509] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อกุศลมูล (รากเง่าของอกุศล) 3 นี้.
3 คืออะไร คือโลภะ โทสะ โมหะ
ภิกษุทั้งหลาย แม้ตัวโลภะ โทสะ โมหะเอง ก็เป็นอกุศล
แม้กรรมที่บุคคลผู้เกิดโลภะ โทสะ โมหะแล้วสร้างขึ้นด้วยกาย ด้วย