เมนู

มารดาบิดาในโลกนี้อยู่ร่วมกัน และมารดาเป็นหญิงที่อยู่ในวัยที่มีรอบ
เดือน แต่ว่าคันธัพพสัตว์ไม่ปรากฏ (อย่างนี้) การก้าวลง (สู่ครรภ์มารดา)
ของสัตว์ผู้เกิดในครรภ์ก็ยังไม่มีก่อน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แต่ว่า เมื่อใดแล มารดาบิดาอยู่ร่วมกัน 1
มารดาเป็นหญิงอยู่ในวัยที่มีรอบเดือน 1 คันธัพพสัตว์ปรากฏ 1 เพราะความ
ประชุมพร้อมแห่งองค์ 3 ดังว่ามานี้ การก้าวลง (สู่ครรภ์มารดา) ของสัตว์
ผู้เกิดในครรภ์จึงมี.
บทว่า โอกฺกนติยา สติ นามรูปํ ความว่า ในที่ที่ตรัสไว้ว่า
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมุ่งถึงธรรม
33 ประการ คือ วัตถุทสกะ กายทสกะ ภาวทสกะ (และ) อรูปขันธ์ 3.
แต่ในที่ที่ตรัสไว้ว่า เมื่อมีการก้าวลง นามรูปจึงมี นี้ พึงทราบว่า พระผู้มี
พระภาคเจ้าทรงมุ่งถึงธรรม 34 ประการ (ที่เกิด) ในขณะปฏิสนธิของคัพภ-
เสยยกสัตว์โดยทรงเพิ่มวิญญาณขันธ์เข้าด้วย. ความที่สฬายตนะปรากฏในเมื่อ
มีนามรูป ความที่ผัสสะปรากฏในเมื่อมีสฬายตนะ ความที่เวทนาปรากฏในเมื่อ
มีผัสสะ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ด้วยบททั้งหลายมีอาทิว่า นามรูปป-
จฺจยา สฬายตนํ
เหมือนทรงแสดงความที่นามรูปปรากฏในเมื่อมีการก้าวลง
(สู่ครรภ์มารดา) ด้วยบทว่า โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปํ ฉะนั้น.

เสวยเวทนา



ในบทว่า เวทิยมานสฺส นี้มีอธิบายดังต่อไปนี้ ผู้เสวยเวทนาอยู่ก็ดี
ผู้รู้เวทนาอยู่ก็ดี เรียกว่า ผู้เสวย (ทั้งนั้น) อธิบายว่า ผู้กำลังเสวยอยู่
ชื่อว่า ผู้เสวย (ดัง) ในประโยคนี้ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้ากำลังเสวยอยู่

ขอสงฆ์จงทรงจำข้าพเจ้าไว้ว่า กำลังเสวยอยู่ ผู้รู้อยู่ ชื่อว่า ผู้เสวย (ดัง) ใน
ประโยคนี้ว่า บุคคลเมื่อเสวยสุขเวทนา ก็รู้ชัดว่า เรากำลังเสวยสุขเวทนา.
แม้ในที่นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงประสงค์เอาผู้ที่รู้อยู่นั่นแลว่าผู้เสวย.
บทว่า อิทํ ทุกฺขนฺติ ปญฺญาเปมิ ความว่า เราตถาคตบัญญัติว่า
นี้ทุกข์ ทุกข์มีเท่านี้ ไม่มีทุกข์นอกเหนือไปจากนี้ แก่สัตว์ผู้รู้อยู่อย่างนี้ คือ
สอนให้เขารู้ ได้แก่ สอนให้เขาทราบ. แม้ในบทว่า อยํ ทุกฺขสมุทโย
เป็นต้น ก็มีนัย นี้แล. บรรดาสัจจะมีทุกข์เป็นต้นในสูตรนั้น สันนิฏฐานกถา
ดังนี้ ก็เว้นตัณหาเสียแล้ว ขันธ์ 5 ที่เป็นไปภูมิ 3 ชื่อว่า ทุกข์ ตัณหา
ในกาลก่อนที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์นั้นนั่นแล ชื่อว่า ทุกขสมุทัย การดับสัจจะ
ทั้งสองนั้นโดยไม่ให้เกิดขึ้นอีก ชื่อว่า ทุกขนิโรธ อริยมรรคมีองค์ 8 ชื่อว่า
ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.

ตรัสปฏิจจสมุปบาทแก่ใคร ?



พระผู้มีพระภาคเจ้า แม้เมื่อจะตรัสว่า เมื่อมีการก้าวลง (สู่ครรภ์มารดา)
นามรูปจึงมี ก็ตรัสแก่บุคคลผู้เสวยอยู่ ผู้รู้อยู่เท่านั้น แม้เมื่อจะตรัสว่า เพราะ
มีนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะ จึงมี ก็ตรัสแก่บุคคลผู้เสวยอยู่ผู้รู้อยู่เท่านั้น
แม้เมื่อจะตรัสว่า เพราะมีีสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะ จึงมี ก็ตรัสแก่
บุคคลผู้เสวยอยู่ผู้รู้อยู่เท่านั้น แม้เมื่อจะตรัสว่า เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย
เวทนาจึงมี ก็ตรัสแก่บุคคลผู้เสวยอยู่ ผู้รู้อยู่เท่านั้น แม้เมื่อจะตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ก็แล เราตถาคตบัญญัติว่า นี้ทุกข์ แก่บุคคลผู้เสวยอยู่ ก็ตรัส