เมนู

ของถ่องแท้อย่างนี้. ก็ถ้าบุคคลจะพึงได้ที่สิ่งที่ควรทำ จะพึงได้เว้นจากสิ่งที่
ไม่ควรทำไซร้ สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ เขาก็จะพึงได้โดยความเป็นของ
จริง โดยเป็นของแท้. แต่เพราะเหตุที่ไม่ได้ทั้ง 2 อย่าง อย่างนี้ ฉะนั้น กิจที่
ควรทำและไม่ควรทำนั้น เขาจึงไม่ได้โดยความเป็นของจริง โดยเป็นของแท้
คือว่าไม่ได้สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำนั้นด้วยอาการอย่างนี้.
บทว่า มุฏฺฐสฺสตีนํ ได้แก่ มีสติเลือนหายไป คือ ปล่อยสติไป.
บทว่า อนารกฺขานํ วิหรตํ ได้แก่ปราศจากอารักขา (ในทวารทั้ง 6) อยู่
บทว่า น โหติ ปจฺจตฺตํ สหธมฺมิโก สมณวาโท ความว่า วาทะว่า
เป็นสมณะ พร้อมทั้งเหตุเฉพาะตัว ว่าเราทั้งหลายเป็นสมณะ ย่อมไม่มี คือ
ไม่สำเร็จ แก่ท่านทั้งหลายหรือบุคคลเหล่าอื่น ผู้เป็นอย่างนี้. เพราะว่า แม้
สมณะทั้งหลายก็เป็นผู้มีกรรมที่ทำไว้ในชาติก่อนเป็นเหตุเหมือนกัน แม้ผู้มิใช่
สมณะก็เป็นผู้มีกรรมที่ทำไว้ในชาติก่อนเป็นเหตุเหมือนกันแล. บทว่า สหธมฺ-
มิโก
ได้แก่ พร้อมทั้งเหตุ. บทว่า นิคฺคโห โหติ ได้แก่ การข่มของเรา
ตถาคตมีอยู่. ก็มิจฉาทิฏฐิกบุคคลเหล่านั้นเป็นอันถูกข่มแล้วแล. ครั้นทรงข่ม
ปุพเพกทวาทีบุคคลอย่างนี้แล้ว บัดนี้ เพื่อจะทรงข่มอิสสรนิมมานวาทีบุคคล
จึงตรัสคำว่า ตตฺร ภิกฺขเว เป็นต้น. ความหมายของคำนั้น พึงทราบ
ตามนัยที่กล่าวแล้วในปุพเพกตวาทะ ในอเหตุวาทะก็เหมือนกัน.

กระต่ายตื่นตูม



พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงแสดง ความที่ลัทธิเดียรถีย์เหล่านี้ว่าง
เปล่าแล้วอย่างนี้ เพราะถึงการสืบต่อกันมาดำรงอยู่ในฐานะเป็น อกิริยทิฏฐิ