เมนู

สัมมาวาจา (วาจาชอบ) สัมมากัมมันตะ (การงานชอบ) สัมมาอาชีวะ
(เลี้ยงชีพชอบ) สัมมาวายามะ (เพียรชอบ) สัมมาสติ (สติชอบ) สัมมาสมาธิ
(สมาธิชอบ) นี่ ภิกษุทั้งหลาย เราเรียกว่าทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ.
คำที่เรากล่าวว่า ธรรมที่เราแสดง ฯลฯ ไม่ค้าน คือ อริยสัจ 4
ดังนี้นี่ เราอาศัยความจริง อย่างมีทุกข์เป็นต้นนี้แลกล่าว.
จบติตถสูตรที่ 1

อรรถกถามหาวรรคที่ 2



อรรถกถาติตถายตนสูตร

*

พึงทราบวินิจฉัยในติตถายตนสูตรที่ 1 แห่งมหาวรรคที่2 ดังต่อไปนี้ :-

ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเดียรถีย์



บ่อเกิด (อายตนะ) ที่เป็นเหมือนติตถะ (ท่า) หรือ บ่อเกิดของ
เดียรถีย์ทั้งหลาย ชื่อว่า ติตถายตนะ แปลว่า ลัทธิเดียรถีย์.
ในบทว่า ติตฺถายตนานิ นั้น นักศึกษาควรรู้จักติตถะ ควรรู้จัก
ติตถกร (เจ้าลัทธิ) ควรรู้จักเดียรถีย์ (และ) ควรรู้จักสาวกของเดียรถีย์ (ก่อน).
ทิฏฐิ 62 ชื่อว่า ติตถะ (ลัทธิ). บุคคลผู้ให้เกิดทิฏฐิ 62 เหล่านั้น
ชื่อว่า ติตถกร. บุคคลผู้พอใจ ชอบใจ ทิฏฐิ 62 เหล่านั้น ชื่อว่า เดียรถีย์
บุคคลผู้ถวายปัจจัยแก่เดียรถีย์เหล่านั้น ชื่อว่า สาวกของเดียรถีย์.
* พระสูตรเป็น ติตถสูตร