เมนู

วังสปฏิปทาสูตร จึงเดินทางไปสิ้นระยะทาง 5 โยชน์ เข้าไปยังวิหาร ในเวลา
ที่พระเถระผู้เทศน์ตอนกลางวันนั่งเทศน์อยู่ ให้ลูกนอนบนพื้นดิน ยืนฟังธรรม
ของพระเถระผู้เทศน์ในกลางวัน. แม้พระเถระแสดงบทภาณ ก็ยืนฟังเหมือนกัน
เมื่อพระเถระผู้เทศน์บทภาณลุกขึ้นแล้ว พระมหาเถระผู้กล่าวทีฆนิกาย ก็เริ่ม
แสดงมหาอริยวงศ์พรรณนาถึงการสันโดษด้วยปัจจัย 4 และการยินดีด้วยภาวนา.
นางยืนประณมมือฟัง พระเถระแสดงปัจจัย 3 แล้ว ทำอาการจะลุกขึ้น
นางจึงเรียนว่า พระคุณเจ้าทั้งหลายคิดว่า จักเทศน์อริยวงศ์แล้ว ฉันโภชนะที่
อร่อย ดื่มน้ำที่มีรสหวาน ปรุงยาด้วยชะเอมเครือ และน้ำมันเป็นต้น แล้ว
จึงขึ้นที่ที่ควรจะแสดง (ธรรมาสน์) พระเถระกล่าวว่า ดีแล้ว น้องหญิง
แล้วเริ่มธรรมอันเป็นความยินดีในภาวนาต่อไป. อรุณขึ้นไป 1 พระเถระ
กล่าวคำว่า อิทมโวจ 1 อุบาสิกาได้บรรลุโสดาปัตติผล 1 (3 อย่างนี้) ได้มี
ในขณะเดียวกัน.

เรื่องหญิงชาวบ้านกาฬุมพระ



หญิงอีกคนหนึ่ง เป็นชาวบ้านกาฬุมพระ อุ้มลูกไปยังจิตตลบรรพต
ด้วยคิดว่า จักฟังธรรม ให้ลูกนอนพิงต้นไม้ต้นหนึ่ง ตนเองยืนฟังธรรม.
ในระหว่างรัตติภาค งูตัวหนึ่งกัดเด็กที่นอนอยู่ใกล้ ๆ นาง ทั้ง ๆ ที่ดูอยู่
เข้าสี่เขี้ยว แล้วหนีไป. นางคิดว่า ถ้าเราจักบอกว่า ลูกของเราถูกงูกัดไซร้
จักเป็นอันตรายแก่การฟังธรรม เมื่อเรายังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ เด็กคนนี้
ได้เป็นลูกของเรามาหลายครั้งแล้ว เราจักประพฤติธรรมเท่านั้น แล้วยืนอยู่
ตลอดทั้ง 3 ยาม ประคองธรรมไว้ ได้บรรลุโสดาปัตติผล เมื่ออรุณขึ้นแล้ว
ทำลายพิษ (งู) ในบุตรด้วยการทำสัจกิริยา แล้วอุ้มบุตรไป คนเห็นปานนี้
ย่อมชื่อว่า เป็นผู้ใคร่การฟังธรรม.
จบอรรถกถาฐานสูตรที่ 2