เมนู

ตัวอย่างผู้ที่ระลึกได้ตามธรรมดาของตน



ในการระลึกได้เองและถูกเตือนให้ระลึกนั้น มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
ทมิฬชื่อทีฆชยันตะระลึกได้เองตามธรรมดาของตน. เล่ากันว่า ทมิฬ
นั้นเอาผ้าแดงบูชาอากาสเจดีย์ (เจดีย์ระฟ้า) ที่สุมนคิริมหาวิหาร ต่อมา (ตายไป)
บังเกิดในที่ใกล้อุสสุทนรก ได้ฟังเสียงเปลวไฟ1 จึงหวนระลึกถึงผ้า (แดง)
ที่ตนเอาบูชา (อากาสเจดีย์) เขาจึง (จุติ) ไปบังเกิดในสวรรค์.
มีอีกคนหนึ่ง ถวายผ้าสาฎกเนื้อเกลี้ยงแก่ภิกษุหนุ่มผู้เป็นบุตร เวลา
ที่ทอดผ้าไว้แทบเท้า (พระลูกชาย) ก็ถือเอานิมิตในเสียง ว่าแผ่นผ้า ๆ ได้.
ต่อมา บุรุษนั้น (ก็ตายไป) บังเกิดในที่ใกล้อุสสุทนรก หวนระลึกถึง
ผ้าสาฎกนั้นได้ เพราะ (ได้ยิน) เสียงเปลวไฟ จึง (จุติ) ไปบังเกิดในสวรรค์.
ชนทั้งหลาย ผู้เกิดในนรกระลึกถึงกุศลกรรมได้ตามธรรมดาของตน
แล้ว (จุติไป) บังเกิดในสวรรค์ ดังพรรณนามานี้ก่อน.
ส่วนสัตว์ผู้ระลึกไม่ได้ตามธรรมดาของตน พญายมย่อมถามถึง
เทวทูต 3. บรรดาสัตว์เหล่านั้น ลางตนระลึกได้เพียงเทวทูตที่ 1 เท่านั้น
(แต่) ลางคนระลึกได้ถึงเทวทูตที่ 2 และที่ 3. สัตว์ใดระลึกไม่ได้ด้วย
เทวทูตทั้ง 3 พญายมจะเตือนสัตว์นั้นให้ระลึกได้เอง.

ตัวอย่างผู้ถูกเตือน



เล่ากันมาว่า อำมาตย์คนหนึ่งบูชาพระมหาเจดีย์ ด้วยดอกมะลิ 1 หม้อ
แล้วได้แบ่งส่วนบุญให้แก่พญายม. นายนิรยบาลทั้งหลายได้นำเขาผู้บังเกิดใน
นรกด้วยอกุศลกรรมไปยังสำนักพญายม. เมื่อเขาระลึกถึงกุศลไม่ได้ด้วยเทวทูต
ทั้ง 3 พญายมจึงตรวจดูเอง พลางเตือนเขาให้ระลึกว่า ท่านได้บูชาพระ-
มหาเจดีย์ด้วยดอกมะลิ 1 หม้อ แล้วได้แบ่งส่วนบุญให้เรามิใช่หรือ ?
1. ปาฐะว่า ชาลสทฺทํ ฉบับพม่าเป็น อคฺคิชาลสทฺทํ แปลตามฉบับพม่า