เมนู

อรรถกถานิทานสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในนิทานสูตรที่ 4 ดังต่อไปนี้:-
บทว่า นิทานานิ ได้แก่ เหตุทั้งหลาย. บทว่า กมฺมานํ ได้แก่
กรรมที่ให้สัตว์ถึงวัฏฏะ. บทว่า โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย ความว่า
ความโลภที่มีความอยากได้ และความละโมบ เป็นสภาพ เป็นต้นเหตุ คือ
เป็นเหตุ อธิบายว่า เป็นปัจจัย เพื่อการเกิดขึ้นแห่งกรรมที่ทำให้ถึงวัฏฏะ
คือทำการประมวลกรรม ที่จะให้ถึงวัฏฏะมา. โทษะที่มีความดุร้าย และความ
ประทุษร้ายเป็นสภาพ ชื่อว่า โทสะ. โมหะที่มีความหลง และความงมงาย
เป็นสภาพ ชื่อว่า โมหะ.
บทว่า โลภปกตํ แปลว่า กรรมที่บุคคลทำแล้ว ด้วยโลภจิต
อธิบายว่า ได้แก่ กรรมที่บุคคลผู้ถูกความโลภครอบงำ เกิดละโมบแล้วทำ.
กรรม ชื่อว่า โลภชํ เพราะเกิดจากความโลภ. กรรม ชื่อว่า โลภนิทานํ
เพราะมีความโลภเป็นต้นเหตุ. กรรม ชื่อว่า โลภสมุทยํ เพราะมีความโลภ
เป็นสมุทัย. ปัจจัย ชื่อว่า สมุทัย อธิบายว่า มีโลภะเป็นปัจจัย. บทว่า
ยตฺถสฺส อตฺตภาโว นิพฺพตฺตติ ความว่า ในที่ใดอัตภาพของบุคคลนั้น
ผู้มีกรรมเกิดแต่ความโลภเกิดขึ้น คือ ขันธ์ทั้งหลายย่อมปรากฏขึ้น.
บทว่า ตตฺถ ตํ กมฺมํ วิปจฺจติ ความว่า กรรมนั้นย่อมเผล็ดผลใน
ขันธ์ทั้งหลายเหล่านั้น. บทว่า ทิฏเฐ วา ธมฺเม เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสไว้ เพื่อทรงแสดงถึงประเภทกรรมนั้น เพราะกรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรม