เมนู

เทวทูตวรรคที่ 4



1.พรหมสูตร



ว่าด้วยพรหมของบุตร



[470] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มารดาบิดา อันบุตรแห่งตระกูล
ทั้งหลายใด บูชาอยู่ในเรือนของตน ตระกูลทั้งหลายนั้น ชื่อว่ามีพรหม ...
มีบุรพาจารย์ ... มีอาหุไนย คำว่าพรหม ... บุรพาจารย์ ... อาหุไนย นี่ เป็น
คำเรียกมารดาบิดาทั้งหลา นั่นเพราะเหตุอะไร เพราะมารดาบิดาทั้งหลาย
เป็นผู้มีอุปการะมาก เป็นผู้ฟูมฟักเลี้ยงดู แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย.
(นิคมคาถา)
มารดาบิดาทั้งหลายผู้เอ็นดูประชา
ชื่อว่าเป็นพรหม เป็นบุรพาจารย์ และเป็น
อาหุไนยของบุตรทั้งหลาย
เพราะเหตุนั้นแหละ บุตรผู้มีปัญญา
พึงนอบน้อมสักการะท่าน ด้วยข้าว ด้วย
น้ำ ด้วยผ้า ด้วยที่นอน ด้วยเครื่องอบ
ด้วยน้ำสนานกาย และด้วยการล้างเท้า
เพราะการบำรุงมารดาบิดานั้น บัณ-
ฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญบุตรนั้น ใน
โลกนี้เทียว บุตรนั้นละ (โลกนี้) ไปแล้ว
ย่อมบันเทิงในสวรรค์.

จบพรหมสูตรที่ 1

เทวทูตวรรควรรณนาที่ 4



อรรถกถาพรหมสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในพรหมสูตรที่ 1 แห่งเทวทูตวรรคที่ 4 ดังต่อ
ไปนี้ :-
บทว่า อชฺฌาคาเร ได้แก่ในเรือนของตน. บทว่า ปูชิตา โหนฺติ
ความว่า มารดาบิดาเป็นผู้อันบุตรปฏิบัติบำรุง ด้วยสิ่งของที่อยู่ในเรือน.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงประกาศตระกูลที่บูชามารดาบิดา ว่าเป็น
ตระกูลมีพรหม (ประจำบ้าน) โดยมีมารดาบิดา (เป็นพรหม) อย่างนี้แล้ว
บัดนี้ เมื่อจะทรงแสดงถึงข้อที่มารดาบิดาเหล่านั้น เป็นบุรพาจารย์เป็นต้น
จึงตรัสคำมีอาทิว่า สปุพฺพาจริยกานิ (มีบุรพาจารย์) ดังนี้. บรรดาบท
เหล่านั้น บทว่า พฺรหฺมา เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ เพื่อให้สำเร็จ
ความเป็นพรหมเป็นต้น แก่ตระกูลเหล่านั้น. บทว่า พหุการา ได้แก่
มีอุปการะมากแก่บุตรทั้งหลาย. บทว่า อาปาทกา ได้แก่ ถนอมชีวิตไว้.
อธิบายว่า มารดาบิดาถนอมชีวิตบุตร คือเลี้ยงดู ประคบประหงม ได้แก่
ให้เป็นไปโดยต่อเนื่องกัน. บทว่า โปสกา ความว่า เลี้ยงดูให้มือเท้าเติบโต
ให้ดื่มเลือดในอก. บทว่า อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร ความว่า เพราะ
ชื่อว่า การที่บุตรทั้งหลายได้เห็นอิฎฐารมณ์ และอนิฏฐารมณ์ ในโลกนี้เกิด
มีขึ้น เพราะได้อาศัยมารดาบิดา เพราะฉะนั้น มารดาบิดาจึงชื่อว่า เป็นผู้แสดง
โลกนี้.
คำว่า พรหม ในบทคาถาว่า พฺรหมาติ มาตาปิตโร นี้ เป็นชื่อของ
ท่านผู้ประเสริฐสุด. พระพรหมจะไม่ละภาวหา 4 อย่าง คือ เมตตา กรุณา