เมนู

เอกปุคคลบาลี



เอกปุคคลวรรคที่ 13



ว่าด้วยบุคคลผู้เป็นเอก



[139] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอก เมื่อเกิดขึ้นในโลก
ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก
เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่ออัตถะเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคต
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอกนี้แล เมื่อ
เกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชน
เป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่ออัตถะเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อ
ความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย.

[140] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรากฏแห่งบุคคลผู้เอกหา
ได้ยากในโลก บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคตอรหันตสัมมา-
สัมพุทธเจ้า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรากฏแห่งบุคคลผู้เอกนี้แล
หาได้ยากในโลก.

[141] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอก เมื่อเกิดขึ้นในโลก
ย่อมเกิดขึ้นเป็นอัจฉริยมนุษย์ บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคต
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอกนี้แล เมื่อ
เกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเป็นอัจฉริยมนุษย์.

[142] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาลกิริยาของบุคคลผู้เอก เป็น
เหตุเดือดร้อนแก่ชนเป็นอันมาก บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคต
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาลกิริยาของบุคคล
ผู้เอกนี้แล เป็นเหตุเดือดร้อนแก่ชนเป็นอันมาก.
[143] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอก เมื่อเกิดขึ้นในโลก
ย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่เป็นที่สองใคร. ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ
ไม่มีใครเปรียบเสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใคร
เสมอ เสมอด้วยพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าคน
ทั้งหลาย บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัม-
พุทธเจ้า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอกนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในโลก
ย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่เป็นที่สองใคร ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ
ไม่มีใครเปรียบเสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใครเสมอ
เสมอด้วยพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าสัตว์สองเท้าทั้งหลาย.

[144] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรากฏขึ้นแห่งบุคคลผู้เอก
เป็นความปรากฏแห่งจักษุใหญ่ แห่งแสงสว่างใหญ่ แห่งโอภาสใหญ่
แห่งอนุตตริยะ 6 เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งปฏิสัมภิทา 4 เป็นการ
แทงตลอดธาตุเป็นอันมาก เป็นการแทงตลอดธาตุต่าง ๆ เป็นการ
กระทำให้แจ้งซึ่งผล คือ วิชชาและวิมุตติ เป็นการกระทำให้แจ้ง
ซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล บุคคลผู้
เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ความปรากฏขึ้นแห่งบุคคลผู้เอกนี้แล เป็นความปรากฏแห่ง
จักษุใหญ่ แห่งแสงสว่างใหญ่ แห่งโอภาสใหญ่ แห่งอนุตตริยะ 6

เป็นการทำให้แจ้งซึ่งปฏิสัมภิทา 4 เป็นการแทงตลอดธาตุเป็นอัน
มาก เป็นการแทงตลอดธาตุต่าง ๆ เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งผล
คือ วิชชาและวิมุตติ เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทา-
คามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล.
[145] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นบุคคลอื่นแม้
คนเดียว ผู้ยังธรรมจักรที่ยอดเยี่ยมอันตถาคตให้เป็นไปแล้ว ให้เป็น
ไปตามโดยชอบ เหมือนสารีบุตรนี้เลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สารีบุตร
ย่อมยังธรรมจักรที่ยอดเยี่ยม อันตถาคตให้เป็นไปแล้ว ให้เป็นไป
ตามโดยชอบทีเดียว.

จบ เอกปุคคลวรรคที่ 13

อรรถกถาเอกปุคคลวรรคที่ 13



อรรถกถาสูตรที่ 1



เอกปุคคลวรรค สูตรที่ 1

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า เอกปุคฺคโล แปลว่า บุคคลคนเดียว. บทว่า เอโก ใน
คำว่า เอกปุคฺคโล นี้ เป็นการกำหนดจำนวน ซึ่งมีใจความปฏิเสธ
คนที่ 2 เป็นต้น. บทว่า ปุคฺคโล เป็นคำพูดโดยสมมติ ไม่ใช่คำพูด
โดยปรมัตถ์.
จริงอยู่เทศนาของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า มี 2 อย่าง คือ
สมมติเทศนา 1 ปรมัตถเทศนา 1 ใน 2 อย่างนั้น เทศนาทำนองนี้ว่า
บุคคล สัตว์ หญิง ชาย กษัตริย์ พราหมณ์ เทวดา มาร ชื่อว่า
สมมติเทศนา เทศนาทำนองนี้ว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ขันธ์ ธาตุ อายตนะ สติปัฏฐาน ชื่อว่า ปรมัตถเทศนา. ในเทศนา 2
อย่างนั้น ชนเหล่าใดฟังเทศนาเนื่องด้วยสมมติ สามารถเข้าใจเนื้อ
ความละโมหะ บรรลุคุณพิเศษได้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมทรงแสดง
สมมติเทศนาแก่ชนเหล่านั้น. ส่วนชนเหล่าใด ฟังเทศนาเนื่องด้วย
ปรมัตถ์ แล้วสามารถเข้าใจเนื้อความ ละโมหะ บรรลุคุณพิเศษได้
พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมทรงแสดงปรมัตถเทศนาแก่ชนเหล่านั้น.
ในข้อนั้น พึงทราบอุปมาดังต่อไปนี้ :-
เหมือนอย่างว่า อาจารย์ผู้ฉลาดในภาษาท้องถิ่น ผู้บรรยาย
เนื้อความแห่งเวททั้ง 3 ชนเหล่าใด เมื่อพูดด้วยภาษาทมิฬ ย่อมรู้ใจ