เมนู

กัลยาณมิตตตาทิวรรคที่ 8



ว่าด้วยความมีมิตรดีเป็นเหตุให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นต้น



[72] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่าง
หนึ่ง ที่เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรืออกุศลธรรม
ที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนความเป็นผู้มีมิตรดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เมื่อบุคคลมีมิตรดี กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และอกุศลธรรม
ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.

[73] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่าง
หนึ่ง ที่เป็นเหตุให้อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือกุศลธรรม
ที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนการประกอบอกุศลธรรมเนือง ๆ
ไม่ประกอบกุศลธรรมเนือง ๆ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะการ
ประกอบอกุศลธรรมเนือง ๆ เพราะการไม่ประกอบกุศลธรรม
เนือง ๆ อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และกุศลธรรมที่เกิด
ขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.

[74] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่าง
หนึ่ง ที่เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรืออกุศลธรรม
ที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนการประกอบกุศลธรรมเนือง ๆ
การไม่ประกอบอกุศลเนือง ๆ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะการ
ประกอบกุศลธรรมเนือง ๆ เพราะการไม่ประกอบอกุศลธรรม

เนือง ๆ กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น อกุศลธรรมที่เกิดขึ้น
แล้ว ย่อมเสื่อมไป.

[75] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่าง
หนึ่ง ที่เป็นเหตุให้โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรือโพชฌงค์ที่เกิด
ขึ้นแล้ว ย่อมไม่ถึงความเจริญบริบูรณ์ เหมือนการใส่ใจโดยไม่
แยบคาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลใส่ใจโดยไม่แยบคาย
โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว
ย่อมไม่ถึงความเจริญบริบูรณ์.

[76] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่าง
หนึ่ง ที่เป็นเหตุให้โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือโพชฌงค์ที่เกิด
ขึ้นแล้ว ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เหมือนการใส่ใจโดยแยบคาย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลใส่ใจโดยแยบคาย โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด
ย่อมเกิดขึ้น ละโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์

[77] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมญาติมีประมาณน้อย
ความเสื่อมปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย.

[78] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเจริญด้วยญาติมีประมาณ
น้อย ความเจริญด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย เพราะ
ฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงสำเนียกอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจัก
เจริญด้วยปัญญา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงสำเนียก
อย่างนี้แล.

[79] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมแห่งโภคะมีประมาณ
น้อย ความเสื่อมแห่งปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าควานเสื่อมทั้งหลาย.

[80] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเจริญด้วยโภคะมีประมาณ
น้อย ความเจริญด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย เพราะฉะนั้น
เธอทั้งหลายพึงสำเนียกอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักเจริญโดยความ
เจริญปัญญา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงสำเนียกอย่างนี้แล.

[81] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมยศมีประมาณน้อย
ความเสื่อมปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย.
จบ กัลยาณมิตตตาทิวรรคที่ 8

อรรถกถากัลยาณมิตตตาทิวรรคที่ 8


อรรถกถาสูตรที่ 1



สูตรที่ 1 แห่งวรรคที่ 8

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า กลฺยาณมิตฺตตา ความว่า ชื่อว่ากัลยาณมิตร เพราะมี
มิตรดี ภาวะแห่งความเป็นผู้มีกัลยาณมิตรนั้น ชื่อว่า กัลยาณมิตตตา
ความเป็นผู้มีมิตรดี. คำที่เหลือพึงทราบโดยนัยที่ตรงกันข้ามกับคำ
ดังกล่าวนี้.
จบ อรรถกถาสูตรที่ 1

อรรถกถาสูตรที่ 2



ในสูตรที่ 2 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อนุโยโค ได้แก่ การประกอบ การประกอบทั่ว. บทว่า
อนนุโยโค ได้แก่ การไม่ประกอบ การไม่ประกอบทั่ว. บทว่า
อนุโยคา แปลว่า เพราะการประกอบเนือง ๆ. บทว่า อนนุโยคา
แปลว่า เพราะไม่ประกอบเนือง ๆ. บทว่า กุสลานํ ธมฺมานํ ได้แก่
กุศลธรรมอันเป็นไปในภูมิ 4.

จบ อรรถกถาสูตรที่ 2

อรรถกถาสูตรที่ 3


ในสูตรที่ 3 มีเนื้อความง่ายทั้งนั้น.
จบ อรรถกถาสูตรที่ 3