เมนู

ชนเหล่านั้นหมดความเคลือบแคลงสงสัยในอมตะนั้นว่า สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลงสู่อมตะ
มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด.
จบปุพพโกฏฐกสูตรที่ 4

อรรถกถาปุพพโกฏฐกสูตร



ปุพพโกฏฐกสูตรที่ 4.

คำว่า หยั่งลงสู่อมตะ คือสู่ภายในอมฤต.
คำว่า มีอมตะเป็นเบื้องหน้า คือ ที่เกิดจากอมตะสำเร็จจากอมตะ. คำว่า
มีอมตะเป็นที่สุด คือสิ้นสุดที่อมตะ. คำว่า สาธุ สาธุ ดีละ ๆ คือ เมื่อ
จะทรงสรรเสริญคำพยากรณ์ของพระเถระ ก็ประทานสาธุการ.
จบอรรถกถาปุพพโกฏฐกสูตรที่ 4

5. ปฐมปุพพารามสูตร



ว่าด้วยปัญญินทรีย์เป็นใหญ่



[987] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ปราสาทของนางวิสาขา
มิคารมารดา ในปุพพาราม ใกล้กรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความ

ที่อินทรีย์เท่าไรหนอ อันตนเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ภิกษุผู้ขีณาสพ
ย่อมพยากรณ์อรหัตผลได้ว่า เรารู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว
กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ภิกษุทั้งหลาย
กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรรมทั้งหลายของพวกข้าพระองค์ มี
พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นแบบอย่าง ฯลฯ
[988] พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่อินทรีย์ประการหนึ่ง
อันตนเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ภิกษุผู้ขีณาสพย่อมพยากรณ์อรหัตผล
ได้ว่า เรารู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว . . . กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี อินทรีย์
อย่างหนึ่งเป็นไฉน คือปัญญินทรีย์.
[989] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัทธา วิริยะ สติ สมาธิ อันไปตาม
ปัญญาของพระอริยสาวกผู้มีปัญญา ย่อมตั้งมั่น.
[990] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่อินทรีย์ประการหนึ่งนี้แล
อันตนเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ภิกษุผู้ขีณาสพย่อมพยากรณ์อรหัตผล
ได้ว่า เรารู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว . . .กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบปฐมปุพพารามสูตรที่ 5

อรรถกถาปฐมปุพพารามสูตร



ปฐมปุพพารามสูตรที่ 5.

คำว่า ตทนฺวยา คือไปตามปัญญานั้น
หมายความว่า หมุนไปตาม (ปัญญานั้น ). พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำส่วน
เบื้องต้นให้เป็นต้นแล้ว ตรัสแต่อินทรีย์ในผลเท่านั้น ใน 6 สูตรตามลำดับ.
จบอรรถกถาปฐมปุพพารามสูตรที่ 5

6. ทุติยปุพพารามสูตร*



ว่าด้วยอินทรีย์ 2



[991] นิทานนั้นเหมือนกัน. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่อินทรีย์เท่าไรหนอ อันตนเจริญแล้ว กระทำ
ให้มากแล้ว ภิกษุผู้ขีณาสพย่อมพยากรณ์อรหัตผลได้ว่า เรารู้ชัดว่า ชาติสิ้น
แล้ว...กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ธรรมทั้งหลายของพวกข้าพระองค์ มีพระผู้มีพระภาคเจ้า
เป็นแบบอย่าง ฯลฯ
[992] พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่อินทรีย์ 2 ประการ
อันตนเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ภิกษุผู้ขีณาสพย่อมพยากรณ์อรหัตผล
ได้ว่า เรารู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว...กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี
* สูตรที่ 6-7-8 ไม่มีอรรถกถาแก้