เมนู

อามกธัญญเปยยาลวรรควรรณนา



พึงทราบอธิบายในอามกธัญญเปยยาลวรรค.
คำว่า สัตว์ผู้ประกอบด้วยปัญญาจักษุอันเป็นอริยะ ความว่า ผู้มี
ปัญญาจักษุเป็นโลกิยะและโลกุตระ ตั้งต้นแต่วิปัสสนา. ในคำว่า ผู้งดเว้น
จากการดื่มน้ำเมา
คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
มีอธิบายว่า ขึ้นชื่อว่า สุรามี 5 อย่างคือ สุราทำด้วยแป้ง 1 สุราทำด้วยข้าว
สุก 1 สุราทำด้วยขนม 1 สุราที่ใส่ด้วยส่าเหล้า 1 สุราประกอบจากเครื่อง
ปรุง 1 น้ำดองอย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านกล่าวไว้อย่างนี้ว่า น้ำดองดอกไม้ น้ำ
ดองผลไม้ ชื่อว่าเมรัย. คำว่า น้ำเมา ได้แก่ ทั้งสอง. อธิบายว่า ก็อีกอย่าง
หนึ่ง น้ำเมาชนิดใดแม้อื่นที่พันแล้วจากสุราและน้ำหมักดอง อันบุคคล
พึงเมา. คนทั้งหลาย ย่อมดื่มสุราและเมรัยนั้น ด้วยเจตนาใด เจตนานั้น
ชื่อว่า เป็นฐานะแห่งความประมาท เพราะเป็นเหตุแห่งความประมาท เป็น
ผู้เว้น แล้วจากการดื่มสุราและเมรัยนั้น.
คำว่า ผู้เกื้อกูลแก่มารดา คือ ผู้มีประโยชน์เกื้อกูลแก่มารดา อธิบาย
ว่า ผู้ปฏิบัติชอบในมารดา.
พึงทราบอธิบายในคำเป็นต้นว่า ผู้เกื้อกูลแก่บิดา. ผู้มีประโยชน์เกื้อ
กูลต่อบิดา ชื่อว่า ผู้เกื้อกูลแก่บิดา. ผู้มีประโยชน์เกื้อกูลต่อสมณะทั้งหลาย
ชื่อว่า ผู้เกื้อกูลแก่สมณะ. ผู้มีประโยชน์เกื้อกูลต่อพราหมณ์ทั้งหลาย ชื่อว่า
ผู้เกื้อกูลแก่พรหม. คำว่า เปตเตยยะเป็นต้นนี้เป็นของผู้ปฏิบัติชอบในบิดา
เป็นต้น เหล่านั้น ๆ นั่นเทียว.