เมนู

อรรถกถาวาทีสูตร



พึงทราบอธิบายในวาทีสูตรที่ 10.
คำว่า สิลายูโป ได้แก่ เสาหิน. คำว่า โสฬสกุกฺกุโก แปลว่า
16 ศอก. บาลีว่า โสฬสุกุกฺกุ แปลว่า 16 ศอก ก็มี. คำว่า มีรากลึกไป
ข้างล่าง
ความว่า เข้าไปสู่หลุมข้างล่าง. คำว่า ข้างบน 8 ศอก คือ
พึงสูงพ้นหลุมมา 8 ศอก. คำว่า อย่างแรง ได้แก่ มีกำลัง. คำที่เหลือใน
บททั้งปวง ตื้นทั้งนั้นแล.
จบอรรรถกถาวาทีสูตรที่ 10
จบสีสปาปัณณวรรควรรณนาที่ 4

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้คือ


1. สีสปาสูตร 2. ขทิรสูตร 3. ทัณฑสูตร 4. เจลสูตร 5. สัตติ
สตสูตร 6. ปาณสูตร 7. ปฐมสุริยูปมสูตร 8. ทุติยสุริยูปมสูตร 9.
อินทขีลสูตร 10 วาทีสูตร และอรรถกถา.

ปปาตวรรคที่ 5



1. จินตสูตร



การคิดเรื่องตายแล้วเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่มีประโยชน์



[1725] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระ
วิหารเวฬุวัน
กลันทกนิวาปสถาน กรุงราชคฤห์ ณ ที่นั้น แล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมา
แล้ว บุรุษคนหนึ่งออกจากกรุงราชคฤห์ เข้าไปยังสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา
ด้วยประสงค์ว่า จักคิดเรื่องโลก ครั้นแล้ว นั่งคิดเรื่องโลกอยู่ ชอบสระโบก-
ขรณี ชื่อ สุมาคธา เขาได้เห็นกองทัพประกอบด้วยองค์ เข้าไปสู่ก้านบัว
ที่ขอบสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา ครั้นแล้ว ได้มีความคิดว่า เราชื่อว่าเป็นคน
บ้า ชื่อว่าเป็นคนมีจิตฟุ้งซ่านเสียแล้ว เราเห็นสิ่งที่ไม่มีในโลก ครั้งนั้น บุรุษ
นั้นเข้าไปยังนครบอกแกหมู่มหาชนว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เราชื่อว่าเป็นคน
ถามว่า ดูก่อนบุรุษผู้เจริญ ท่านเป็นบ้าได้อย่างไร ท่านมีจิตฟุ้งซ่านอย่างไร
สิ่งอะไรที่ไม่มีในโลกซึ่งท่านเห็นแล้ว.
บุ. ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย จะบอกให้ทราบ เราออกจากกรุง-
ราชคฤห์เข้าไปยังสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา ด้วยประสงค์ว่า จักคิดเรื่องโลก
ครั้น แล้วนั่งคิดเรื่องโลกอยู่ ณ ขอบสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา เราได้เห็นกอง
ทัพประกอบด้วยองค์ 4 เข้าไปสู่ก้านบัวที่ขอบสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา เรา
เป็นบ้าได้อย่างนี้ เรามีจิตฟุ้งซ่านอย่างนี้ ก็สิ่งนี้ ไม่มีในโลก เราเห็นแล้ว.