เมนู

อรรถกถาอานันทิยสูตร



พึงทราบอธิบายในนันทิยสูตรที่ 10.
คำว่า เพื่อความสงัดในกลางวัน เพื่อหลีกเร้นในกลางคืน
ความว่า กลางวันสงัด กลางคืนหลีกเร้น. คำว่า ธรรมทั้งหลาย ย่อมไม่
ปรากฏ
ได้แก่ธรรมคือสมถะและวิปัสสนา ย่อมไม่เกิดขึ้น. คำที่เหลือในบท
ทั้งปวงมีเนื้อความตื้นทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถานันทิยสูตรที่ 10
จบปุญญาภิสันทวรรควรรณนาที่ 4

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. ปฐมอภิสันทสูตร 2. ทุติยอภิสันทสูตร 3. ตติยอภิสันทสูตร
4. ปฐมเทวปทสูตร 5. ทุติยเทวปทสูตร 6. สภาคตสูตร 7. มหานาม-
สูตร 8. วัสสสูตร 9. กาฬิโคธาสูตร 10. นันทิยสูตร และอรรถกถา.

สคาถกปุญญาภิสันทวรรคที่ 5



1. ปฐมอภิสันทสูตร



ห้วงบุญกุศล 4 ประการ



[1603] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ห้วงบุญห้วงกุศล อันเป็นปัจจัย
นำมาซึ่งความสุข 4 ประการนี้ 4 ประการเป็นไฉน อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ เป็นผู้จำแนกธรรม
นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศล อันนำมาซึ่งความสุขประการที่ 1 อีกประการหนึ่ง
อริยสาวกประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรม ... นี้เป็น
ห้วงบุญห้วงกุศลอันนำมาซึ่งความสุขประการที่ 2 อีกประการหนึ่ง อริยสาวก
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ ... นี้เป็นห้วงบุญห้วง-
กุศลอันนำมาซึ่งความสุขประการที่ 3 อีกประการหนึ่ง อริยสาวกประกอบ
ด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ไม่ขาด ฯลฯ เป็นไปเพื่อสมาธิ นี้เป็นห้วงบุญ
ห้วงกุศลอันนำมาซึ่งความสุขประการที่ 4 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ห้วงบุญห้วง
กุศลอันเป็นปัจจัยนำมาซึ่งความสุข 4 ประการนี้แล.
[1604] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ใคร ๆ จะนับจะประมาณบุญของอริย
สาวกผู้ประกอบด้วยห้วงบุญห้วงกุศล 4 ประการนี้ว่า ห้วงบุญห้วงกุศลอันเป็น
ปัจจัยนำมาซึ่งความสุข มีประมาณเท่านี้ มิใช่กระทำได้โดยง่าย ที่แท้
ห้วงบุญห้วงกุศลย่อมถึงความนับว่า เป็นกองบุญใหญ่ จะนับประมาณมิได้.