เมนู

ก็ฉันนั้น เธอมีใจเปิดเผย ไม่มีอะไรหุ้มห่อ อบรมจิตให้สว่างอยู่ ด้วย
ประการฉะนี้.
[1206] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อเจริญอิทธิบาท 4 แล้ว
อย่างนี้ กระทำให้มากแล้วอย่างนี้แล ย่อมแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง คือ คน
เดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ฯลฯ ใช้อำนาจทางกายไป
ตลอดพรหมโลกก็ได้.
[1207] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อเจริญอิทธิบาท 4 แล้ว
อย่างนี้ กระทำให้มากแล้วอย่างนี้แล ย่อมกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญา
วิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไปด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่
(แม้อภิญญาทั้งหกก็พึงขยายความออกไป)
จบมรรคสูตรที่ 1

2. อโยคุฬสูตร



ว่าด้วยการแสดงฤทธิ์



[1208] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบอยู่หรือว่า พระองค์ทรงเข้าถึงพรหมโลกด้วย
พระฤทธิ์ พร้อมทั้งพระกายอันสำเร็จแต่ใจ.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า เราทราบอยู่ อานนท์ ว่าเราเข้าถึง
พรหมโลกด้วยฤทธิ์ พร้อมทั้งกายอันสำเร็จแต่ใจ.
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบอยู่หรือว่า
พระองค์ทรงเข้าถึงพรหมโลกด้วยพระฤทธิ์ พร้อมทั้งพระกายอันประกอบด้วย
มหาภูตรูป 4 นี้.
พ. เราทราบอยู่ อานนท์ ว่าเราเข้าถึงพรหมโลกด้วยฤทธิ์ พร้อม
ทั้งกายอันประกอบด้วยมหาภูตรูป 4 นี้.
[1209] อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้อที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรง
ทราบว่า พระองค์ทรงเข้าถึงพรหมโลกด้วยพระฤทธิ์ พร้อมทั้งพระกายอัน
สำเร็จด้วยใจ และทรงทราบว่า พระองค์ทรงเข้าถึงพรหมโลกด้วยพระฤทธิ์
พร้อมทั้งพระกายอันประกอบด้วยมหาภูตรูป 4 นี้ เป็นสิ่งน่าอัศจรรย์ ทั้งไม่
เคยมีมาแล้ว.
พ. ดูก่อนอานนท์ พระตถาคตทั้งหลายเป็นผู้อัศจรรย์ และประกอบ
ด้วยธรรมอันน่าอัศจรรย์ เป็นผู้ไม่เคยมีมา และประกอบด้วยธรรมอันไม่เคย
มีมา
[1210] ดูก่อนอานนท์ สมัยใด ตถาคตตั้งกายไว้ในจิต หรือตั้งจิต
ลงไว้ที่กาย ก้าวลงสู่สุขสัญญาและลหุสัญญาในกายอยู่ สมัยนั้น กายของ
ตถาคตย่อมเบากว่าปกติ อ่อนกว่าปกติ ควรแก่การงานกว่าปกติ และ
ผุดผ่องกว่าปกติ.
[1211] ดูก่อนอานนท์ เปรียบเหมือนก้อนเหล็กที่เผาไฟอยู่วันยังค่ำ
ย่อมเบากว่าปกติ อ่อนกว่าปกติ ควรแก่การงานกว่าปกติ และผุดผ่อง
กว่าปกติ ฉันใด สมัยใด ตถาคตตั้งกายลงไว้ในจิต หรือตั้งจิตลงไว้ที่กาย
ก้าวลงสู่สุขสัญญาและลหุสัญญาในกายอยู่ สมัยนั้น กายของตถาคตย่อมเบา

กว่าปกติ อ่อนกว่าปกติ ควรแก่การงานกว่าปกติ และผุดผ่องกว่าปกติ
ฉันนั้นเหมือนกัน.
[1212] ดูก่อนอานนท์ สมัยใด ตถาคตตั้งกายลงไว้ในจิต หรือ
ตั้งจิตลงไว้ที่กาย ก้าวลงสู่สุขสัญญาและลหุสัญญาในกายอยู่ สมัยนั้น กายของ
ตถาคตย่อมลอยจากแผ่นดินขึ้นสู่อากาศได้โดยไม่ยากเลย ตถาคตนั้นย่อมแสดง
ฤทธิ์ได้หลายอย่าง คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียว
ก็ได้ ฯลฯ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้.
[1213] ดูก่อนอานนท์ เปรียบเหมือนปุยนุ่นหรือปุยฝ้าย ซึ่งเป็น
เชื้อธาตุที่เบา ย่อมลอยจากแผ่นดินขึ้นสู่อากาศได้โดยไม่ยากเลย ฉันใด
สมัยใด ตถาคตตั้งกายลงไว้ในจิต หรือตั้งจิตลงไว้ที่กาย ก้าวลงสู่สุขสัญญา
และลหุสัญญาอยู่ สมัยนั้น กายของตถาคตย่อมลอยจากแผ่นดินขึ้นสู่อากาศได้
โดยไม่ยากเลย ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ
[1214] ดูก่อนอานนท์ สมัยนั้น กายของตถาคตย่อมลอยจาก
แผ่นดินขึ้นสู่อากาศได้โดยไม่ยากเลย ตถาคตนั้นย่อมแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง
คือคนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ฯลฯ ใช้อำนาจ
ทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้.
จบอโยคุฬสูตรที่ 2

อโยคุฬวรรควรรณนาที่ 3



อรรถกถาอโยคุฬสูตร



อโยคุฬวรรคที่ 3 สูตรที่ 2.

คำว่า อันประกอบด้วยมหาภูต
รูป 4
นี้ คือ สำเร็จมาจากมหาภูตทั้ง 4 นี้ แม้เป็นภาระ เป็นของหนักอย่างนี้.
คำว่า โอมาติ ได้แก่ ย่อมเพียงพอ คือ ย่อมสามารถ. บทนี้เป็นบทที่ไม่
แตกต่างในพระพุทธพจน์ คือ พระไตรปิฏก. คำว่า ย่อมตั้งแม้กายไว้ในจิต
ได้แก่ ถือเอากายมาไว้ในจิต คือทำให้อาศัยจิต ส่งไปในคติของจิต. ที่ชื่อว่า
จิต หมายเอามหัคคตจิต. การไปของคติแห่งจิต ย่อมเป็นของเบาเร็ว. คำว่า
ย่อมตั้งแม้จิตไว้ในกาย ได้แก่ ยกเอาจิตมาไว้ในกาย คือ ทำให้อาศัยกาย
ส่งไปในคติของกาย. กรัชกายชื่อว่ากาย. การไปของคติแห่งกายเป็นของช้า.
คำว่า สุขสัญญา และลหุสัญญา หมายถึงสัญญาที่เกิดพร้อมกับอภิญญา
จิต. จรึงอยู่ สัญญานั้น เพราะประกอบด้วยสุขสงบ จึงชื่อว่าสุขสัญญา และ
เพราะไม่มีความประพฤติชักช้าเพราะกิเลส จึงชื่อว่า ลหุสัญญา.
คำว่า ก้อนเหล็กที่เผาไฟ อยู่วันยังค่ำย่อมเบากว่าปกติ
ความว่า ก็แล ก้อนเหล็กนั้นแม้ถูกคนสองสามคนช่วยกันยกใส่ในเตาช่างเหล็ก
ถูกเผาอยู่ตลอดวัน เป็นสิ่งที่ไปด้วยกันกับลม เพราะไฟที่ใส่เข้าไปตามช่อง
และเพราะลม เป็นของที่ไปด้วยกันกับไอ และเป็นของที่ไปด้วยกันกับไฟ
อย่างนี้จึงกลายเป็นของเบา. ช่างเหล็ก เอาคีมใหญ่มาคีบจับมันด้านหนึ่งพลิก
ไปมา ยกขึ้นเอาออกมาข้างนอกฉันใด กายของพระตถาคตก็ฉันนั้น ย่อมอ่อน