เมนู

5. โยนีโสสูตร



มนสิการโดยแยบคายย่อมเกิดโพชฌงค์


[487] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อภิกษุมนสิการโดยแยบคาย สติ-
สัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และที่เกิดแล้ว ย่อมถึงความเจริญ
บริบูรณ์ ฯลฯ.
[488] อุเบกขาสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และที่เกิดแล้ว
ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์.
จบโยนิโสสูตรที่ 5

6. วุฑฒิสูตร



โพชฌงค์เป็นไปเพื่อความเจริญ


[489] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ 7 นี้ อันบุคคลเจริญแล้ว
กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญ เพื่อความไม่เสื่อม. โพชฌงค์
7 เป็นไฉน. คือ สติสัมโพชฌงค์ ฯลฯ อุเบกขาสัมโพชฌงค์ โพชฌงค์ 7
นี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญ
เพื่อความไม่เสื่อม.
จบวุฑมิสูตรที่ 6

7. อาวรณานีวรณสูตร



ธรรมเป็นอุปกิเลสของจิต 5


[490] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเป็นเครื่องกั้น เป็นเครื่องห้าม
เป็นอุปกิเลสของจิต ทำปัญญาให้ทราม 5 อย่างนี้. 5 อย่างเป็นไฉน ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย กามฉันทะเป็นธรรมเครื่องกั้น เป็นธรรมเครื่องห้าม เป็น
อุปกิเลสของจิต ทำปัญญาให้ทราม. พยาบาท . . . ถีนมิทธะ . . . อุทธัจจ-
กุกกุจจะ . . . วิจิกิจฉา เป็นธรรมเครื่องกั้น เป็นธรรมเครื่องห้าม เป็น
อุปกิเลสของจิต ทำปัญญาให้ทราม. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 อย่างนี้แล
เป็นเครื่องกั้น เป็นเครื่องห้าม เป็นอุปกิเลสของจิต ทำปัญญาให้ทราม.
[491] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ 7 เหล่านี้ ไม่เป็นเครื่องกั้น
ไม่เป็นเครื่องห้าม ไม่เป็นอุปกิเลสของจิต อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้
มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งผลคือ วิชชาและวิมุตติ. โพชฌงค์
7 เป็นไฉน. คือ สติสัมโพชฌงค์ ไม่เป็นเครื่องกั้น ไม่เป็นเครื่องห้าม
ไม่เป็นอุปกิเลสของจิต อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไป
เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งผล คือ วิชชาและวิมุตติ ฯลฯ อุเบกขาสัมโพชฌงค์
ไม่เป็นเครื่องกั้น ไม่เป็นเครื่องห้าม ไม่เป็นอุปกิเลสของจิต อันบุคคล
เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อทำให้แจ้งซึ่งผล คือวิชชา
และวิมุตติ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ นี้แล ไม่เป็นเครื่องกั้น ไม่
เป็นเครื่องห้าม ไม่เป็นอุปกิเลสของจิต อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มาก
แล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งผล คือ วิชชาและวิมุตติ.