เมนู

8. ทุติยสัมพหุลสูตร



ว่าด้วยพระพุทธองค์ทรงแสดงเวทนา



[408] ครั้งนั้นแล ภิกษุมากด้วยกัน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ.
ใดเจ้าถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามภิกษุ
เล่นนั้นว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เวทนามีเท่าไร ฯลฯ อะไรเป็นอุบาย
เครื่องสลัดออกแห่งเวทนา ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
กรรมทั้งหลายของพวกข้าพระองค์มีพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นรากฐาน ฯลฯ
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้ากระนั้นพวกเธอจงฟัง
จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เวทนา 3
เหล่านี้ คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เหล่านี้ เราเรียกว่า เวทนา ฯ ลฯ ( พึงขยายความให้พิสดารเหมือนสูตร
ต้นๆ)
จบ ทุติสัมพหุลสูตรที่ 8

9. ปัญจกังคสูตร



ว่าด้วยช่างไม้ปัญจกังคะถามปัญหาพระอุทายี



[409] ครั้งนั้นแล ช่างไม้ชื่อปัญจกังคะเข้าไปหาท่านพระอุทายี
ถึงที่อยู่ ไหว้ท่านพระอุทายีแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ได้ถามท่านพระอุทายีว่า ท่านพระอุทายีผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส

เวทนาไว้เท่าไรหนอ ท่านพระอุทายีตอบว่า ดูก่อนคฤหบดี พระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสเวทนาไว้ 3 อย่าง คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุข
เวทนา ดูก่อนคฤหบดี พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนาไว้ 3 อย่างนี้แล.
[410] เมื่อท่านพระอุทายีกล่าวอย่างนี้แล้ว ช่างไม้ชื่อปัญจกังคะ
ได้กล่าวกะท่านพระอุทายีว่า ท่านพระอุทายีผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ไม่ได้ตรัสเวทนาไว้ 3 อย่าง ตรัสไว้ 2 อย่าง คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา
ท่านผู้เจริญ อทุกขมสุขเวทนาอันเป็นไปฝ่ายละเอียด พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสไว้ในสุขอันประณีต แม้ครั้งที่ 2 ท่านพระอุทายี ก็ได้กล่าวกะช่างไม้ว่า
ก่อนคฤหบดี พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ได้ตรัสเวทนาไว้ 2 อย่างเลย พระ
ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนา 3 คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา
พระผู้มีพระภาคจ้าตรัสเวทนา 3 อย่างนี้ แม้ครั้งที่ 2 ช่างไม้ชื่อปัญจกังคะ
ก็ได้กล่าวกะท่านพระอุทายีว่า ท่านพระอุทายีผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ไม่ได้ตรัสเวทนาไว้ 3 อย่างเลย ตรัสเวทนาไว้ 2 อย่าง คือ สุขเวทนา
ทุกขเวทนา ท่านผู้เจริญ อทุกขมสุขเวทนาอันเป็นไปในฝ่ายละเอียด
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในสุขอันประณีต แม้ครั้งที่ 3 ท่านพระอุทายี
ก็ได้กล่าวกะช่างไม้ว่า ดูก่อนคฤหบดี พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ได้ตรัสเวทนา
ไว้ 2 อย่างเลย ตรัสเวทนาไว้ 3 อย่าง คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขม-
สุขเวทนา พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนา 3 อย่างนี้ แม้ครั้งที่ 3 ช่างไม้
ได้กล่าวกะท่านพระอุทายีว่า ท่านพระอุทายีผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ไม่ได้ตรัสเวทนาไว้ 3 อย่างเลย ตรัสเวทนาไว้ 2 อย่าง คือ สุขเวทนา

ทุกขเวทนา ท่านผู้เจริญ อทุกขมสุขเวทนาอันเป็นไปในฝ่ายละเอียด
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในสุขอันประณีต ท่านพระอุทายีไม่สามารถจะ
ช่างไม้ตกลงได้ ฝ่ายช่างไม้ก็ไม่สามารถให้ท่านพระอุทายีตกลงได้.
[411] ท่านพระอานนท์ ได้ฟังการสนทนาปราศรัยนี้ของที่ใน
พระอุทายีกับช่างไม้ ครั้นแล้วได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ นั่ง
ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลการสนทนาปราศรัยแม้นั้นทั้งหมด
แต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ ช่างไม้
ชื่อปัญจกังคะไม่คล้อยตามเหตุอันมีอยู่ของภิกษุอุทายี ส่วนภิกษุอุทายีไม่
คล้อยตามเหตุอันมีอยู่ของช่างไม้.

ว่าด้วยประเภทแห่งเวทนา



[412] ดูก่อนอานนท์ โดยปริยายหนึ่ง เรากล่าวเวทนา 2 ก็มี
โดยปริยายหนึ่ง เรากล่าวเวทนา 3 ก็มี โดยปริยายหนึ่ง เรากล่าวเวทนา
ก็มี โดยปริยายหนึ่ง เรากล่าวเวทนา 6 ก็มี โดยปริยายหนึ่ง เรากล่าว
เวทนา 18 ก็มี โดยปริยายหนึ่ง เรากล่าวเวทนา 36 ก็มี โดยปริยายหนึ่ง
เรากล่าวเวทนา 108 ก็มี ดูก่อนอานนท์ ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยปริยาย
อย่างนี้ ดูก่อนอานนท์ เมื่อธรรมอันเราแสดงแล้วโดยปริยายอย่างนี้แล
ชนเหล่าใดจักไม่สำคัญตาม จักไม่รู้ตาม จักไม่บันเทิงตาม ซึ่งคำที่เรากล่าวดี
แล้ว เจรจาดีแล้ว แก่กันและกัน เหตุนี้จักเป็นอันชนเหล่านั้นหวังได้ คือ
ชนเหล่านั้นจักเกิดความบาดหมางกัน เกิดความทะเลาะกัน วิวาทกัน
จักทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปาก ดูก่อนอานนท์ ธรรมอันเราแสดง