เมนู

อรรถกถาอานันทสูตรที่ 10



ในอานันทสูตรที่ 10 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า เตสเมตํ สทฺธึ อภวิสฺส ความว่า คำพยากรณ์นั้นจัก
เป็นอันเดียวกันกับลัทธิของสมณพราหมณ์เหล่านั้น จักอนุโลมเพื่อความ
เกิดขึ้นแห่งญาณว่า สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา วิปัสสนาญาณว่า สพฺเพ
ธมฺมา อนตฺตา
นี้ย่อมเกิดขึ้น คำพยากรณ์ของเรานั้น จักอนุโลมบ้าง
หรือหนอ.
จบ อรรถกถาอานันทสูตรที่ 10

11. สภิยสูตร



ว่าด้วยวัจฉโคตรปริพาชกถามปัญหาพระสภิยกัจจานะ



[803] สมัยหนึ่ง ท่านพระสภิยกัจจานะอยู่ ณ ที่พักซึ่งก่อสร้าง
ด้วยอิฐ ใกล้บ้านญาติ ครั้งนั้นแล วัจฉโคตรปริพาชกได้เข้าไปหาท่าน
พระสภิยกัจจานะถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านสภิยกัจจานะ ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ได้ถามท่านพระสภิยกัจจานะว่า ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ สัตว์เบื้องหน้าแต่
ตายแล้วย่อมเกิดอีกหรือ ท่านพระสภิยกัจจานะตอบว่า ดูก่อนวัจฉะ ปัญหา
ข้อนี้เป็นปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงพยากรณ์.
. ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมไม่เกิดอีก
หรือ.

. ดูก่อนวัจฉะ แม้ปัญหาข้อนี้ก็เป็นปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ไม่ทรงพยากรณ์.
. ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเกิดอีกก็มี
ย่อมไม่เกิดอีกก็มีหรือ.
. ดูก่อนวัจฉะ ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่
ทรงพยากรณ์.
. ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเกิดอีกก็
หามิได้ ย่อมไม่เกิดอีกก็หามิได้หรือ.
. ดูก่อนวัจฉะ แม้ปัญหาข้อนี้ก็เป็นปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ไม่ทรงพยากรณ์.
. ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ เมื่อข้าพเจ้าถามว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่
ตายไปแล้วย่อมเกิดอีกหรือ ท่านก็ตอบว่า ดูก่อนวัจฉะ ปัญหาข้อนี้เป็น
ปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงพยากรณ์ ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ เมื่อ
ข้าพเจ้าถามว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมไม่เกิดอีกหรือ ท่านก็ตอบว่า
ดูก่อนวัจฉะ ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงพยากรณ์
เมื่อข้าพเจ้าถามว่า ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อม
เกิดอีกก็มี ย่อมไม่เกิดอีกก็มีหรือ ท่านก็ตอบว่า ดูก่อนวัจฉะ ปัญหาข้อนี้
เป็นปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงพยากรณ์ ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ
เมื่อข้าพเจ้าถามว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเกิดอีกก็หามิได้ ย่อม
ไม่เกิดอีกก็หามิได้หรือ ท่านก็ตอบว่า ดูก่อนวัจฉะ แม้ปัญหาข้อนี้ก็เป็น
ปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงพยากรณ์ ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ อะไร
หนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระสมณโคดมไม่ทรงพยากรณ์ปัญหาข้อนั้น.

. ดูก่อนวัจฉะ เหตุอันใดและปัจจัยอันใดเพื่อการบัญญัติว่า สัตว์
มีรูปก็ดี ว่าสัตว์ไม่มีรูปก็ดี ว่าสัตว์มีสัญญาก็ดี ว่าสัตว์ไม่มีสัญญาก็ดี ว่าสัตว์
มีสัญญาก็มิใช่ ไม่มีสัญญาก็มิใช่ก็ดี เหตุอันนั้นและปัจจัยอันนั้น พึงดับ
ทุก ๆ อย่าง หาเศษมิได้ บุคคลเมื่อบัญญัติสัตว์ ว่าสัตว์มีรูปก็ดี ว่าสัตว์
ไม่มีรูปก็ดี ว่าสัตว์มีสัญญาก็ดี ว่าสัตว์หาสัญฌามิได้ก็ดี ว่าสัตว์มีสัญญา
ก็มิใช่ ไม่มีสัญญาก็มิใช่ก็ดี พึงบัญญัติด้วยอะไร.
. ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ ท่านบวชนานเท่าไร.
. ไม่นาน ได้สามพรรษา.
. ดูก่อนผู้มีอายุ การกล่าวแก้ของผู้ที่กล่าวแก้ได้มากถึงเท่านี้
เมื่อการกล่าวแก้ไพเราะอย่างนี้แล้ว ก็ไม่จำต้องพูดอะไรกันอีก.
จบ สภิยสูตรที่ 11
จบ อัพยากตสังยุต


อรรถกถาสภิยสูตรที่ 11



ในสภิยสูตรที่ 1 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า เอตฺตเกน เอตฺตกเมว ความว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ
การพยากรณ์ของผู้ที่ชี้แจงว่า เมื่อเหตุมี ย่อมมีรูปเป็นต้น คือ พยากรณ์ว่า
เมื่อเหตุไม่มี รูปย่อมไม่มี โดยกาลเท่านี้นั้น มีมากถึงเพียงนี้ ก็ไม่ต้อง
กล่าวอะไร ในการพยากรณ์ที่ไพเราะเพราะพริ้งเป็นที่น่าพอใจยิ่ง กล่าว
โดยนัยแห่งธรรมเทศนานั้นแหละ ไม่จำต้องกล่าวอะไร เลิกพูดกันได้.
จบ อรรถกถาสภิยสูตรที่ 11
จบ อรรถกถาอัพยากตสังยุต
จบ อรรถกถาสังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค