เมนู

อรรถกถากุตุหลสาลาสูตรที่ 9



ในกุตุหลสาลาสูตรที่ 9 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า กุตุหลายํ ความว่า ศาลาเฉพาะหลัง ชื่อว่ากุตุหาลา ไม่มี
แต่สมณพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้ถือลัทธิต่าง ๆ กัน สนทนากันถึงเรื่องต่าง ๆ
ที่ศาลาใด ศาลานั้น คือศาลาหลังนี้สำหรับสมณพราหมณ์เป็นอันมาก
ท่านกล่าวดังนี้. ศาลาหลังนี้ ท่านเรียกว่า กุตุหลสาลา เพราะเป็นที่เกิด
ความวุ่นวายว่า พูดอะไรกัน. บทว่า ทูรํปิ คจฺฉติ ความว่า ย่อมไป
จนถึงพรหมโลกชั้นอาภัสสร. บทว่า อิมญฺจ กายํ นิกฺขิปติ ความว่า
ย่อมทอดทิ้งด้วยจุติจิต. บทว่า อนุปปนฺโน โหติ ความว่า ย่อมไม่เข้าถึง
เพราะปฏิสนธิจิตไม่เกิดในจุติขณะนั้นเอง.
จบ อรรถกถากุตุหลสาลาสูตรที่ 9

10. อานันทสูตร



ว่าด้วยพระอานนท์ถามปัญหา



[801] ครั้งนั้นแล วัจฉโคตรปริพาชกได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มี-
พระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อัตตามีอยู่หรือ
เมื่อวัจฉโคตรปริพาชกได้ทูลถามอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรง

ดุษณีเสีย วัจฉโคตรปริพาชกได้ทูลถามอีกว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
ก็อัตตาไม่มีหรือ แม้ครั้งที่สอง พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ได้ทรงดุษณีเสีย
เหมือนกัน ครั้นแล้ว วัจฉโคตรปริพาชกก็ได้ลุกขึ้นจากที่นั่งหลีกไป.
[802] ครั้งนั้น เมื่อวัจฉโคตรปริพาชกหลีกไปแล้วไม่นาน
ท่านพระอานนท์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
เพราะเหตุอะไรหนอ พระผู้มีพระภาคเจ้าอันวัจฉโคตรปริพาชกทูลถาม
ปัญหาแล้ว จึงไม่ทรงพยากรณ์ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์
เราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตามีอยู่หรือ ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่า
อัตตามีอยู่ไซร้ คำพยากรณ์นั้นก็จักไปร่วมกับลัทธิของพวกสมณพราหมณ์
ผู้เป็นสัสสตทิฏฐิ ดูก่อนอานนท์ เราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตา
ไม่มีหรือ ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่า อัตตาไม่มีไซร้ คำพยากรณ์นั้นก็จักไปร่วม
กับลัทธิของพวกสมณพราหมณ์ผู้เป็นอุจเฉททิฏฐิ ดูก่อนอานนท์ เราอัน
วัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตามีอยู่หรือ ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่า อัตตามี
อยู่ไซร้ คำพยากรณ์ของเรานั้น จักอนุโลมเพื่อความบังเกิดขึ้นแห่งญาณว่า
ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตาบ้างหรือหนอ.
อา. หามิได้ พระเจ้าข้า.
. ดูก่อนอานนท์ ถ้าหากเราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตา
ไม่มีหรือ จะพึงพยากรณ์ว่า อัตตาไม่มีไซร้ คำพยากรณ์นั้นคงจักเป็นไป
เพื่อความหลงงมงายแก่วัจฉโคตรปริพาชกผู้งมงายอยู่แล้ว่า เมื่อก่อนอัตตา
ของเราได้มีแล้วแน่นอน บัดนี้ อัตตานั้นไม่มี ดังนี้.
จบ อานันทสูตรที่ 10

อรรถกถาอานันทสูตรที่ 10



ในอานันทสูตรที่ 10 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า เตสเมตํ สทฺธึ อภวิสฺส ความว่า คำพยากรณ์นั้นจัก
เป็นอันเดียวกันกับลัทธิของสมณพราหมณ์เหล่านั้น จักอนุโลมเพื่อความ
เกิดขึ้นแห่งญาณว่า สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา วิปัสสนาญาณว่า สพฺเพ
ธมฺมา อนตฺตา
นี้ย่อมเกิดขึ้น คำพยากรณ์ของเรานั้น จักอนุโลมบ้าง
หรือหนอ.
จบ อรรถกถาอานันทสูตรที่ 10

11. สภิยสูตร



ว่าด้วยวัจฉโคตรปริพาชกถามปัญหาพระสภิยกัจจานะ



[803] สมัยหนึ่ง ท่านพระสภิยกัจจานะอยู่ ณ ที่พักซึ่งก่อสร้าง
ด้วยอิฐ ใกล้บ้านญาติ ครั้งนั้นแล วัจฉโคตรปริพาชกได้เข้าไปหาท่าน
พระสภิยกัจจานะถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านสภิยกัจจานะ ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ได้ถามท่านพระสภิยกัจจานะว่า ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ สัตว์เบื้องหน้าแต่
ตายแล้วย่อมเกิดอีกหรือ ท่านพระสภิยกัจจานะตอบว่า ดูก่อนวัจฉะ ปัญหา
ข้อนี้เป็นปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงพยากรณ์.
. ดูก่อนกัจจานะผู้เจริญ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมไม่เกิดอีก
หรือ.