เมนู

แต่ตายแล้วย่อมเกิดอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เกิดอีกก็หามิได้ก็ดี ย่อมไม่เกิด
มีแก่บุคคลผู้รู้ผู้เห็นเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ตามความเป็นจริง
รู้เห็นเหตุเกิดแห่งเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ตามความเป็นจริง
รู้เห็นความดับแห่งเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ตามความเป็นจริง
รู้เห็นปฏิปทาเครื่องให้ถึงความดับแห่งเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ตามความเป็นจริง.
จบ ทุติยสารีปุตตโกฏฐิตสูตรที่ 4

5. ตติยสารีปุตตโกฏฐิตสูตร



ว่าด้วยพระโกฏฐิตะถามปัญหาพระสารีบุตร



[776] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรและท่านพระมหาโกฏฐิตะ
อยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี ฯลฯ ได้มีคำถามอย่างนั้น
เหมือนกันว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ อะไรเล่าเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระผู้มี-
พระภาคเจ้าไม่ทรงพยากรณ์ปัญหาข้อนั้น.
[777] ท่านพระสารีบุตรตอบว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ความเห็น
ว่าสัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเกิดอีกก็ดี ฯลฯ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้ว
ย่อมเกิดอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เกิดอีกก็หามิได้ก็ดี ย่อมเกิดมีแก่บุคคลผู้ยัง
ไม่ปราศจากความกำหนัด ความพอใจ ความรัก ความระหาย ความเร่าร้อน
ความทะยานอยากในรูป ความเห็นว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเกิด
อีกก็ดี ฯลฯ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเกิดอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เกิดอีก